ลำปาง-โอละพ่อ คนละเรื่องกัน ฝากเตือนอย่าหลงเชื่อข้อความในโลกโซเชี่ยล

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 64 ที่ผ่านมา จากกรณีผู้ใช้เฟซบุค ชื่อ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Kim Signature และ HerKid รวมพลคนเห่อลูกได้โพสต์ข้อความลงใน เพจ lampang city ว่า ขออนุญาตใช้กลุ่มนี้เป็นกระบอกเสียงค่ะ พอดีหลานมาปรึกษาว่าเพื่อนสนิทโดนกระทำตั้งแต่อายุ 12 ค่ะ ตอนนี้เด็กอายุ 14 ปี อยู่ลำปาง แม่ติดคุก เด็กต้องอยู่กับพ่อเลี้ยงอาชีพครูกับลูกติดพ่ออีกคน เราไม่ได้เป็นญาติอะไรกับเด็กค่ะ แต่เห็นแชทหลานแล้วอดใจนิ่งเฉยไม่ได้จริงๆ ยังไม่ได้แจ้งตำรวจหรือหน่วยงานใดๆทั้งสิ้น ใครพอมีหนทางหรือหน่วยงานไหนช่วยหรือคุ้มครองเด็กได้บ้าง หลานบอกมีคลิปที่เด็กโดนถ่ายอีกเยอะมาก เด็กไม่กล้าบอกใครเพราะไม่มีใครแล้ว แม่ก็ติดคุกกลัวไม่มีคนเลี้ยงดูส่งเสีย สงสารเด็กจริงๆค่ะ นอกจากนั้นผู้โพสต์ยังได้แค้ป บทสนทนาทางแชทไลน์ ให้ลูกเลี้ยงแก้ผ้า ในห้องน้ำเพื่อจะถ่ายรูปไว้ดู โดยระบุว่าเป็นพ่อเลี้ยง เป็นครูสอนโรงเรียนที่ จ.แพร่ มีบุคคลเข้ามาคอมเม้นท์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยตำรวจ กก.ภ.จว.ลำปาง เร่งดำเนินการตรวจสอบ

ต่อมาทาง พล.ต.ต.นันทวิทย์ เทียมบุญธง ผบก.ภ.จว.ลำปาง ได้สั่งการ พ.ต.อ.รัฐการ ดุรงคบพิตร ผกก.สภ.เมืองปาน จ.ลำปาง พร้อมด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวน ออกติดตามสอบถามข้อมูลจากผู้นำท้องถิ่นจนทราบว่า เด็กที่ตกเป็นข่าวดังกล่าวอยู่ที่บ้านแม่กองปิน ต.บ้านขอ องเมืองปาน จ.ลำปาง จึงติดต่อประสาน นายเกษม วงศ์บุญบริรักษ์ ผญบ.บ้านแม่กองปิน พร้อมด้วยผู้ปกครองนำตัวมาสอบถามข้อเท็จจริงข้อมูลเบื้องต้นดังกล่าว
ทั้งนี้ทราบว่าเป็นและภาพข้อมูลเก่าเมื่อ ปี 2560 ที่เอามาโพสต์ไม่มีวันที่ ซึ่งขณะนั้นเด็กที่ถูกอ้างชื่อพาดพิงอายุเพียง 14 ปีเรียนอยู่ชั้น ม.2 ผ่านมาแล้ว 4 ปี ปัจจุบันกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.6 แต่เพื่อนที่อ้างว่าชื่อ มุก ไม่เคยรู้จักและไม่มีเพื่อนชื่อนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าจะเป็นขบวนการหลอกลวงเด็กถ่ายคลิปโป๊ะ ซึ่งได้ให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ปกครองผู้เสียหายเพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

ทางด้าน พ.ต.อ.รัฐการ ดุรงคบพิตร ผกก.สภ.เมืองปาน จ.ลำปาง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นกรณีมีการแชร์แอบถ่ายรูปเด็กอาบน้ำโดยอ้างว่าเป็นพ่อเลี้ยงและมีอาชีพเป็นครู แม่ติดคุก จากการสอบสวนทราบว่า ทางผู้เสียหายอยู่กับครอบครัวพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดจริงๆมาตลอด ไม่มีพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง ไม่มีเพื่อนที่รู้จักที่สนิทในต่างจังหวัดที่อ้างชื่ออยู่ในโซเชี่ยลเลย สาเหตุในการโพสต์ข้อความและรูปดังกล่าว จากการสอบถามเบื้องต้นได้ความว่า ประมาณปี 2560 ได้มีคนร้ายทักเฟสเข้ามาว่า ส่งคลิปในลักษณะชายสูงวัยกับหญิงต่างวัยกระทำกัน และถามว่า รู้จักคนที่ถูกกระทำในเฟซบุ้คหรือเปล่า ถ้ารู้จักให้ติดต่อให้ด้วย ต่อมาทางเด็กได้ทักไปในเฟซบุ้คของกลุ่มคนร้าย จากนั้นอ้างว่า เป็นองค์กรเกี่ยวกับเด็ก ทักเข้ามาหาเด็กว่า องค์กรได้ตรวจสอบเด็กแล้วมีการสื่อสารกับคนที่ส่งคลิปเข้ามาครั้งแรก ก็เลยหาเรื่องกับเด็กโดยต่อรองผู้เสียหายว่า ให้ส่งรูปภาพคลิปของตนเองเข้าไปจะไม่ดำเนินคดีในฐานะนกต่อ และเด็กก็กลัวเลยส่งภาพโป๊ะของตัวเองเข้าไป
ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะเป็นแก๊งค์หรือเปล่า ทราบเพียงแต่ว่า จากการสื่อสารกันในแอ้ปฯเด็กก็จำไม่ได้ว่าในแอ็ปฯอะไรเป็นแบบวีดิโอคอล แต่ฝั่งปลายสายเขาไม่เปิดกล้อง อยากฝากถึงเด็กหากเจอในลักษณะนี้ควรปรึกษากับผู้ปกครอง หรือครูผู้ปกครอง ผอ.โรงเรียน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาโดยการนำผู้กระทำผิดเข้ามาสู่ขบวนการยุติธรรมดีกว่าที่จะคิดเองจนบานปลายออกมาเช่นนี้ ในส่วนของคนร้ายกำลังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวน และที่ระบุว่าเป็นครูสอนอยู่จังหวัดแพร่ จากการสอบสวนเด็กผู้กับผู้ปกครองผู้ให้กำเนิดอยู่ที่บ้านตลอด ส่วนคนที่ชื่อ อำนวย ในเฟซบุ้คเด็กยืนยันว่าไม่รู้จัก มุกก็ไม่รู้จัก และคนที่ชื่อ อำนวย นามสกุล คล้ายกันจากการตรวจสอบรายชื่อทั่วประเทศมีอยู่ 9 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 5 คน เสียชีวิตไปเป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน เป็นแถว จ. ยโสธร และ จ.น่าน ส่วนที่ จ.ลำปาง มี 1 คน แต่อายุ 75 ปีแล้ว และรูปถ่ายในเฟซบุ้คใบหน้าก็ไม่ตรงกัน

ตอนนี้ทางผู้ปกครอง ได้มอบโทรศัพท์ถือของเด็กให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจสอบกู้ข้อมูลที่เด็กได้ลบออกไปแล้ว ถ้าได้ข้อมูลร่องรอยการติดต่อ การสื่อสารของคนร้าย ก็จะทราบ IP Adress และยืนยันตัวบุคคลได้ ก็จะแจ้งผู้ปกครองของผู้เสียหายมาร้องทุกข์ต่อไป ในส่วนของผู้โพสต์เอง ตอนนี้ก็กำลังหาตัวบุคคลยังไม่ได้ยืนยันตัวและเจตนาในการโพสต์และได้รับข้อมูลมาอย่างไร เมื่อไหร่ เพื่อจะรวบรวมข้อมูล เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างเสร็จเรียบร้อยก็จะให้ผู้ปกครองผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อไป
ทางด้านนางสุพิน โกเมฆ อายุ 50 ปี มารดาเด็กผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ทราบข่าวก็ตกใจไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวเพราะอยู่กับพ่อแม่ตลอด เช้านั่งรถตู้นักเรียนไปเรียนหนังสือ เลิกเรียนก็นั่งรถตู้กลับบ้าน วันหยุดก็ไปช่วยแม่ไปดูแลไร่ข้าวโพด ไม่เคยไปเที่ยวไหน ยิ่งบอกว่าโทรศัพท์ที่เก็บได้ว่าเป็นยี่ห้อไอโฟน ยิ่งเป็นไปไม่ได้ บ้านก็เป็นบ้านไม้ธรรมดาไม่ได้ร่ำรวยอะไร และไม่เคยติดคุกหรือมีพ่อเลี้ยงตามที่เขาโพสต์ในเฟซบุ้ค เพราะทำไร่ขายข้าวโพดส่งลูกเรียนให้ค่าเดินทางไปเรียนวันละ 40-50 บาท เท่านั้นจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อไอโฟน หลังเห็นโพสต์ดังกล่าวลูกสาวเสียใจมาก นอนร้องไห้ทั้งคืน ตนเองและครอบครัวอยู่กัน 3 คนก็เสียใจ สงสารลูก ไม่รู้ว่าคนทำต้องการอะไร มีจิตใจของความเป็นพ่อแม่หรือไม่ และได้มอบโทรศัพท์ของลูกให้กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจสอบข้อมูลในการติดตามตัวผู้กระทำความผิดดังกล่าวแล้ว
ภาพ/ข่าว.ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน