มณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต
เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2564 เวลา 07.50 น. พลตรี อโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมประกอบพิธีถวายพวงมาลา กล่าวถวายราชสดุดี ต่อเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องใน “วันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดี และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ผู้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ ผู้ทรงได้กอบกู้อิสรภาพของไทยและทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติจนทำให้มีประเทศไทยอย่างเข่นทุกวันนี้ โดยมี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานในพิธีฯ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตำบลศาลา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2 มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ ทรงเสด็จพระราชสมภพเมื่อปี พ.ศ. 2098 ที่ พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชา และพระวิสุทธิกษัตรี ทรงมีพระเชษฐ์ภคิณี คือ พระสุพรรณกัลยา และมีพระอนุชาคือ สมเด็จพระเอกาทศรถ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 ขณะพระชนมายุได้ 35 พรรษา ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระปรีชาสามารถ เชี่ยวชาญทางด้านการรบ ซึ่งเห็นได้จากยุทธวิธีการสงครามที่ทรงใช้ อันได้แก่ การใช้คนจำนวนน้อยเอาชนะคนจำนวนมาก ยุทธวิธีการรบแบบกองโจร การใช้หลักการรุก การออม และการรวมกำลัง ตลอดจนการดำเนินกลยุทธ์ที่เด็ดขาดในการบังคับบัญชา ทั้งการระวัง ป้องกัน และการจู่โจม สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 ขณะทรงกรีฑาทัพไปตีกรุงอังวะ และได้เกิดประชวร เป็นฝีหัวระลอกขึ้นที่พระพักตร์ เกิดเป็นบาดแผลพิษรุนแรง จนเสด็จสวรรคต ณ เมืองหาง ที่ตำบลทุ่งแก้ว ขณะพระชนมายุได้ 50 พรรษา รวมระยะเวลาที่ทรงขึ้นครองราชย์สมบัตินาน 15 ปี
ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน