แพร่แถลงแล้วไข่แตกที 5 ฟอง เหม็นหึ่ง ชาวบ้านด่ามาตรการห่วยแตก ผู้บริหารทำลอยตัวอยู่เหนือปัญหา เวรกรรมของคนแพร่

นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วย นายแพทย์ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุข

จังหวัดแพร่ นายสุรพล  วงศ์สุขพิศาล ปลัดจังหวัดแพร่ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จำนวน 5 ราย

รายแรกเป็นหญิงอายุ 20 ปี คาดว่าติดเชื้อมาจากสถานบันเทิงในจังหวัดเชียงใหม่

โดยได้รับรายงานจากโรงพยาบาลแพร่ว่าพบผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน 5 ราย สอบสวนโรคแล้วเสร็จ 1 ราย มีประวัติการเดินทางไปสถานบันเทิงจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นแหล่งสถานบันเทิงที่มีการติดเชื้อ วันที่ 4-5  เมษายน 2564ได้เดินทางไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ภายในจังหวัดเชียงใหม่  และในวันที่ 6 เมษายน 2564ได้นั่งรถโดยสารเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดแพร่  วันที่ 7 เมษายน 2564 ได้รับข่าวจากเพื่อนว่าติดโควิด-19 จึงได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลแพร่เพื่อขอตรวจ และกลับมากักตัวที่บ้าน วันที่ 8 เมษายน 2564 ได้แยกตัวอยู่ที่บ้านทั้งวันจนทราบผลว่าติดโควิด และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแพร่

นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผวจ.แพร่ กล่าวว่า    การเดินทางของผู้ที่เข้ามาในพื้นที่จังหวัดแพร่ในช่วงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ (10-18 เมษายน 2564) ผู้ที่เดินทางเข้ามาพื้นที่จังหวัดแพร่ มีที่พักอาศัยหรือที่อยู่แน่นอน มาจากทุกจังหวัดให้รายงานตัวต่อผู้นำชุมชน หรือ อสม. ในพื้นที่เพื่อซักประวัติการเดินทาง และการประเมินความเสี่ยง รวมทั้งให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวอยู่ในชุมชนและให้ อสม.เฝ้าระวังผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ทุกคน เพื่อแจ้งให้มารายงานตัวต่อ อสม.หรือผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้านทันที เพื่อบันทึกข้อมูลผ่าน QR Code แพร่ชนะ หรือกรอกข้อมูลในเอกสารรับรายงานตัวเพื่อให้ผู้นำชุมชนหรือ อสม. นำไปบันทึกข้อมูลผ่านคิวอาร์โค้ด แพร่ชนะ นักท่องเที่ยวที่พักโรงแรมหรือไม่มีที่พักที่แน่นอน ให้ลงทะเบียนตามระบบของโรงแรมเพื่อประเมินความเสี่ยงและให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวลงทะเบียนโดยการกรอกข้อมูลผ่านคิวอาร์โค้ดแพร่ชนะ โดยผู้เดินทางหรือพนักงานของสถานประกอบการโรงแรมนั้นๆ ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเช่น มีประวัติว่าเดินทางมาจาก หรือเข้าไปในสถานที่เสี่ยงในช่วงที่เกิดการระบาด หรือมีคนใกล้ชิดป่วยด้วยโรค covid-19 ขอความร่วมมืองดหรือหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เช่น ตลาด ห้างสรรพสินค้า งานเลี้ยง ร้านอาหาร ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือกิจกรรมที่มีการรวมตัวเป็นจำนวนมาก และให้เคร่งครัดสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 100 % ตลอดเวลา และให้เฝ้าระวังสังเกตอาการของตนเองและปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T โดยเคร่งครัดคือเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และสแกน Application ไทยชนะ ทุกครั้งเมื่อเข้าออกสถานที่สาธารณะหรือสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก

เบื้องต้นจังหวัดแพร่ได้รับวัคซีนมา 1,800 โดด โดยจะได้รับ 900 คน แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ด่านหน้าจำนวน 400 คน และเจ้าหน้าที่ อสม. 500 คน

สำหรับมาตรการในการเฝ้าระวังของจังหวัดมีประชาชนชาวแพร่ถามเข้ามาและแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมากว่า จังหวัดแพร่มีมาตรการที่หละหลวมมาก แม้แต่การเดินทางเข้าออกภายในจังหวัดยังไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก สนามบินรัฐมนตรีช่วยลงเครื่องบินทั้งผู้ต้อนรับผู้ติดตามเต็มไปหมดยังไม่มีการตรวจอะไรสักอย่างหรือจะเกรงกลัวเกรงใจผู้ใหญ่งั้นหรือ

สถานีขนส่งสถานีรถไฟ ตั้งโต๊ะมีเจลฉีดตรวจวัดอุณหภูมิ ถามว่าได้ผลไหม ด่านตั้งไว้ก็มีแต่ด่านบางด่านไม่มีคนสักคน แต่เบิกจ่ายงบประมาณเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงคนอยู่ด่าน

มาตรการอื่นๆมีอะไรบ้างที่น่าชื่นใจให้กับประชาชนผู้บริหารระดับสูงลอยอยู่เหนือปัญหา โยนขี้ไปทั่ว เหมือนข้าราชการที่ลาพักร้อนมาพักร้อนแบบไหนแบบนั้นประชาชนได้อะไร ไข่แตกโพล๊ะที4-5คนใครรับผิดชอบ นี่ก็เดือดร้อนกันทั้งจังหวัด ไอ้ที่เขาเดือดร้อนกันยังมีคนอีกกลุ่มที่จัดงานคอนเสิร์ตที่จังหวัดอนุอนุญาตให้จัดก็ยังโฆษณาปาวๆให้ไปดูคอนเสิร์ต จังหวัดคิดอะไรอยู่ เรื่องนี้เรื่องใหญ่แต่ทำเอาหูไปนาเอาตาไปทุ่ง ปิดถนนตำรวจออกคำสั่งห้ามปิดแต่เขาก็ปิดอยู่ตั้งเต้นเก็บเงินแม่ค้า แบบนี้เขาไม่เรียกว่าเอาที่หลวงไปขายกินหรือเปล่าเขาถามมา แต่ตำรวจก็หูตาไม่เห็นซะงั้น ประชาชนคิดเอา เพราะรายได้ไปอยู่ไหน เขาเรียกทำนาบนหลังคนชาวบ้านเดือดร้อนจะตายยังปล่อยให้คนมาแสวงหาประโยชน์