หมอทศพร สส.แพร่เขต1พท.เผยสภาฯ เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด ด้วยเสียงเอกฉันท์ 308 อากาศจะสะอาดได้ต้องบังคับให้เป็นไปตามพรบ.ที่ตรามา
เมื่อวันที่21 ตุลาคม2568 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 32 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. … ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยถือเป็นการประชุมต่อเนื่องนัดที่ 7 เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ที่มีเนื้อหา 104 มาตรา และเริ่มพิจารณาครั้งแรกในการประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 ทีผ่านมา.สำหรับการประชุมสภาฯ วันนี้ เริ่มพิจารณาตั้งแต่มาตรา 94 เป็นต้นไป โดย ไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้เรียกสมาชิกลงมติอย่างต่อเนื่องเป็นรายมาตรา ซึ่งการพิจารณาดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากไม่มีผู้อภิปราย จนกระทั่งที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในมาตรา 104 รวมถึงเห็นชอบ อัตราค่าธรรมเนียมเพื่ออากาศสะอาด ที่คณะกรรมาธิการเพิ่มขึ้นใหม่.จากนั้นเข้าสู่การลงมติเห็นชอบทั้งฉบับในวาระ 3 ที่ประชุมลงมติด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ 309 เสียง ไม่มีเสียงไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง 4 เสียง ไม่ลงคะแนน 5 เสียง รวมถึงเห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ เป็นอันว่าที่ประชุมสภาฯ เห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ. บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดฯ ขั้นตอนต่อไปจะส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป.นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดฯ ได้กล่าวขอบคุณสมาชิก โดยระบุว่า กฎหมายฉบับนี้เราต่อสู้มาอย่างยาวนาน ต้องขออภัยสมาชิกที่กินเวลาในหลายๆ วันที่ผ่านมา แต่รับรองว่ากฎหมายฉบับนี้จะเป็นเครื่องยนต์และอาวุธในการต่อสู้เพื่อทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้เรา.ขณะที่ นพ. ทศพร เสรีรักษ์ สส. แพร่ พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวขอบคุณกรรมาธิการฯ ที่ทำงานมาด้วยความเหนื่อยยากเกือบ 2 ปี ขอบคุณ สส. ทุกท่านที่ร่วมกันผ่านกฎหมายฉบับนี้ พร้อมระบุว่า สส. ที่ไม่สามารถมาลงมติได้ในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เห็นด้วย แต่มีหน้าที่หลายอย่าง ไม่อยากให้นำประเด็นนี้มาโจมตีกัน.ทั้งนี้ นพ. ทศพรกล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ จากร่างหลัก 102 มาตรา คงไว้ไม่มีการแก้ไข 4 มาตรา มีการแก้ไขทั้งหมด 98 มาตรา มีการตัดออก 10 แห่ง แก้ไข 90 แห่ง เพิ่มขึ้น 205 แห่ง รวมแล้วมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด 305 แห่ง พวกเราต้องกดปุ่มลงคะแนนทั้งหมด 305 ครั้ง.“กฎหมายฉบับนี้จะช่วยให้เมืองไทยมีอากาศสะอาดขึ้น แต่พวกเราต้องบังคับใช้ให้เป็นไปตามกฎหมาย และช่วยกันทำให้เมืองไทยมีอากาศสะอาด โดยเริ่มต้นจากสภาฯ เราเอง” นพ. ทศพรระบุ


