หาเรื่องอยากตาย ก่อกวนวงเหล้า สุดท้าย ตัวเองถูกฟันยับดับไม่เป็นท่า

ตั้งวงดื่มเหล้าหน้าบ้าน อยู่ๆ เด็กรุ่นน้องเข้ามาหาเรื่องทำร้าย  ยกมือไหว้ขอร้องยังไม่จบ สุดท้ายทนไม่ไหววิ่งไปคว้ามีดใส่ฟัน หนุ่มใหญ่ดับอนาถ สอบสวนประวัติผู้ตายโชคโชน

***เมื่อเวลา 20.10 น. ของวันที่ 26 มีนาคม 2564  พ.ต.ท.ทวีศักดิ์  ตุ้ยบุญมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ ได้รับเหตุ ทะเลาะวิวาท และทำร้ายร่างกาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายที่บ้านเลขที่  191/3 ม.4 ต.ทุ่งกวาว  อ.เมือง จ.แพร่ จึงประสานสายตรวจตำบลทุ่งกวาวตรวจสอบ ร่วมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดแพร่และแพทย์จากกู้ชีพเวียงโกศัย เข้าตรวจสอบ

        ที่เกิดเหตุเป็นถนนกลางหมู่บ้าน บริเวณรั่วหน้าบ้าน พบชาย ไม่สวมเสื้อ นอนจมกองเลือดมีบาดแผลบริเวณ ศีรษะ หลัง และแขน ถูกฟันด้วยของมีคม อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลแพร่อย่างเร่งด่วน ต่อมาทราบชื่อคนได้รับบาดเจ็บคือนายพรเทพ  กาวงศ์  อายุ  42 ปี  บ้านเลขที่ 206/1 ม.1 ต.ทุ่งกวาว อ.เมือง จ.แพร่ บริเวณ ในบ้านที่เกิดเหตุเป็นซุ้มหน้าบ้านมีชุดม้าหินอ่อน  มีผู้ก่อเหตุ 2 ราย ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือ นายพิชิต   มาลัย อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 191/3 ม.4 ต.ทุ่งกวาว อ.เมือง จ.แพร่ และนาย ชาญชัย  ชอบเลี้ยวรื่น อายุ  51 ปี  บ้านเลขที่ 202/3 พร้อมกับอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ คือ มีดอีโต้จำนวน 2 ด้าม

   สอบถามนาย เอ (นามสมมุติ) เล่าว่า ก่อนหน้านั้นประมาณ  ทุ่มกว่า ตนเอง และ นายพิชิต  มาลัย นายชาญชัย  ชอบเลี้ยวรื่น  นั่งดื่มเหล้ากันบริเวณ ม้าหินอ่อน หน้าบ้านกัน 3 คน อยู่  นายเบ้น (นายพรเทพ กาวงศ์) ก็เดินเข้ามา และมาโอบกอดพี่ชัย(ชาญชัย ขอบเลี้ยวรื่น)  3-4 ครั้ง ตอนแรกคิดว่ามันจะทำเล่นพอตีเสร็จก็ยังพูดว่า มึงจะเอาจะใดกับกู เอามือผลักอกพี่ช้าง (นายพิชิต มาลัย) แล้วพูดว่า มึงจะเอายังไงไอ้ช้าง ผมก็ลุกขึ้นมา ถามเป็นหยังเบ้น มันยังบอกว่ามึงจะเอากับกูไหมใครก็ได้แล้วก็เดินออกมา ในมือยังมีกระจับมือมาด้วยแต่ไม่ได้ใช้ อันนี้คือรอบแรกที่ตีพี่ชัย  จากนั้นจะเข้ามาตีผม ผมบอกผมไม่สู้ พี่ช้าง(นายพิชิตฯ ) ยกมือไหว้ และบอกไม่สู้ใครสักคนแล้ว แต่นายเบ้นยังไม่หยุด ยังบอกว่าให้เข้ามาเลยทั้ง 3 คน  ทุกคนต่างงง และไม่มีใครเข้าใจก็เพราะอะไร นายเบ้นจึงเข้ามาหาเรื่อง ตนเองเห็นท่าทีไม่ดีและคิดว่า สักพักนายเบ้นไปกินเหล้าที่อื่นและจะต้องกลับมาหาเรื่องอีกเป็นแน่แท้จึงกลับบ้านไปก่อน จากนั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

นางสุชาดา  รัชอำนวยวงศ์ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านเล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองไม่อยู่บ้านกลับมาเขาเล่าให้ฟังว่า คนที่บาดเจ็บเข้ามาหาเรื่องก่อน รอบแรกเดินเข้ามาในบ้าน นายชัยชวนกินเหล้าด้วยกัน แต่นายเบ้นก็คว้าคอ แล้วก็ชกเลย แล้วเขาถามว่ามาชกทำร้ายร่างกายทำไม ก็ไม่ตอบและชกต่อ อีกคนที่อยู่ด้วยกัน ก็ยกมือไหว้ และพูดว่า ขอเถอะ ไม่สู้เพราะสู้ไม่ไหว จากนั้นเขาก็เดินกลับออกไป จากนั้นสักระยะก็กลับมาโดยเอารถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้านและเดินเข้าไปหาพร้อมสนับมือ เพื่อหาเรื่องเขา จากนั้น ผู้ต้องหาเห็นท่าไม่ดี ว่าสู้ไม่ไหว จึงวิ่งเข้าไปคว้ามีในบ้าน มาคนละ 1 ด้าม ช่วยฟัน และไล่มาถึงหน้าบ้าน อีกหลังหนึ่ง

ล่าสุด 2 ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน และรับสารภาพว่าช่วยกันฟัน นายเบ้นจริง เบื้องต้น ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่นายเบ้นทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลแพร่