เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแพร่–อุตรดิตถ์ ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม

หลังราคายางร่วงหนัก 10 บาทต่อกิโลฯ ชี้ถูกกดราคาไม่เป็นธรรม พร้อมเรียกร้อง 9 ข้อ แก้ปัญหาราคายางตกต่ำ

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เวลา10.30น.ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดแพร่ อำเภอเมืองแพร่ นายธนกร อ่อนเป็ง ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยตัวแทนเกษตรกรจากจังหวัดแพร่และอุตรดิตถ์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ ถึงปัญหาการถูกกดราคารับซื้อยางพาราอย่างไม่เป็นธรรม โดยมีนายธารณ์ ธรรมิกนนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ เป็นผู้รับเรื่อง เพื่อนำเสนอถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ประธานคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้า, และ อธิบดีกรมสรรพากร

นายธนกร เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา ราคายางพาราร่วงลงอย่างรุนแรงถึง 10 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ยังไม่เข้าสู่ฤดูกาลเปิดกรีดยาง ส่งผลให้เกษตรกรเดือดร้อนหนัก โดยเฉพาะจากการที่ผู้ค้าคนกลางกดราคารับซื้ออย่างไม่เป็นธรรม จึงต้องออกมาเรียกร้องในครั้งนี้โดยในหนังสือร้องเรียนมีการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา 9 ข้อหลัก ได้แก่ขอให้คณะกรรมการว่าด้วยสินค้าและบริการออกประกาศกำหนดราคายางที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อเกษตรกร, กำหนดให้ผู้ซื้อยางต้องแจ้งข้อมูลปริมาณ สถานที่เก็บ ต้นทุนการผลิต รวมถึงการนำเข้า-ส่งออกต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง, ออกประกาศระบุพฤติกรรมที่ถือว่าเป็นการกดราคายางอย่างไม่เหมาะสม เพื่อควบคุมความปั่นป่วนในตลาด, ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สั่งการให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับบริษัทหรือนายทุนที่กดราคารับซื้ออย่างจงใจ, วางมาตรการควบคุมการขนย้ายยางพาราบริเวณชายแดน ป้องกันการลักลอบนำเข้ายางจากต่างประเทศ, ตรวจสอบภาษีและบัญชีของบริษัทรับซื้อยางที่อาจมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงภาษีหรือแสดงข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง, ปรับปรุง พ.ร.บ.ควบคุมยาง พ.ศ. 2512 ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการบังคับใช้, ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีรับซื้อ-ขายยาง ตามประกาศของคณะกรรมการว่าด้วยสินค้าและบริการ, และเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการสินเชื่อพยุงราคายาง และขยายเวลาชำระหนี้ให้เกษตรกรกับ ธ.ก.ส. ทั้งนี้ตัวแทนเครือข่ายชาวสวนยางหวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งพิจารณาและดำเนินการตามข้อเสนอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และสร้างเสถียรภาพให้กับราคายางพาราในระยะยาวต่อไป