รวบตัวทันทีมือแทงพระไส้ทะลักคาวัด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังชิ้น รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าพบตัวนายสุวรรณ มูลคำ อายุ 55 ปี ผู้ก่อเหตุหลบมาอยู่ที่ รพสต.แม่สิน อ.วังชิ้น จ.แพร่ จึงได้นำกำลังชุดสืบสวน สภ.วังชิ้น ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอวังชิ้น เข้าจับกุมตัวนายสุวรรณ มูลคำ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุแทงพระศรัณยู ถาเป็ง อายุ 36 ปี จนเสียชีวิตคาวัด เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 26 มีนาคม 2568 ที่วัดสัมฤทธิ์บุญ อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ โดยนายสุวรรณฯ สวมกางเกงขาสามส่วน ไม่ใส่เสื้อตะโกนว่ามอบตัวๆๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสุวรรณฯ พาไปหาของกลางคือมีดและปืน แต่นายสุวรรณฯ พูดจาวกวน หลอกล่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา เบื้องต้นทราบว่าหลังก่อเหตุนายสุวรรณฯ นำอาวุธไปฝากไว้ที่บ้านนายสุบิน การินตา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายสุวรรณฯ ไปเพื่อค้นหาอาวุธ เบื้องต้นเจออาวุธมีดแต่ยังไม่ชัดเจนว่าใช่เป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุหรือเปล่า ต่อมานายสุวรรณรับสารภาพและพาเจ้าหน้าไปยังที่ซ่อนมีดที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นห้างนาที่ใช้ก่อเหตุห่างจากวัดประมาณ 2 กิโลเมตร พบว่าเป็นมีดปลายแหลมดัดแปลงตรงสันมีดลักษณัคล้ายตะขอเกี่ยว ในส่วนของปืนนั้นเจ้าของบ้านยอมรับว่านายสุวรรณฯ นำมาให้คืนตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นอาวุธปืนจึงรับไว้เพราะส่งมาให้พร้อมกับกระเป๋าถือซึ่งเป็นถุงผ้าคิดว่านายสุวรรณฯ เอาปลามาให้ แต่พอเปิดดูแล้วเจอว่าเป็นอาวุธปืนจึงรีบเรียกนายสุวรรณฯ กลับมาเอา นายสุวรรณฯ ขี่รถจักรยานยนต์มาเอาไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว จากนั้นก็ไม่ทราบว่า อาวุธปืนนั้นอยู่ที่ไหน
***ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายสุวรรณฯ กลับไปที่ สภ.เพื่อสอบสวน และตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย แต่ไม่พบ และขณะสอบสวนนายสุวรรณฯ มีอาการเครียดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายสุวรรณฯ ไปไว้ในห้องขังชั่วคราวก่อนระหว่างรอพนักงานสอบสวนมาสอบปากคำต่อไป
***ทางด้านพระเอ็ม ธรรมธิโป ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า อาตมาก็นั่งเล่นอยู่ มีโยมเข้ามา เขาคุยอะไรกันไม่รู้ได้ยินไม่ค่อยชัดได้ยินคำสองคำสักพักโยมที่เข้ามาก็ลงไม้ลงมือตี พระก็สู้ อาตมาก็รีบไปแจ้งเจ้าอาวาสตอนที่เกิดเหตุก็ไม่เห็นเหตุการณ์แล้วตอนนั้นไปแจ้งเจ้าอาวาสอยู่ เห็นอีกทีพระก็กุมท้องถูกแทงมาแล้วช่วงที่ชุลมุนกันไม่รู้ว่ายังไงเหตุการณ์มันรวดเร็วมากตอนที่ทะเลาะกันชุลมุนเราก็ไม่รู้ว่าเขาต่อสู้กันยังไง ไม่คิดว่าจะร้ายแรงขนาดนี้จากนั้นก็เรียกรถเพื่อนำส่งโรงพยาบาลซึ่งตัวอาตมาเองอยู่กับเจ้าอาวาสข้างบน ตอนที่คนร้ายเข้ามาเขาไม่ได้พูดคุยกับอาตมาเขาคุยกัน2คนซึ่งอาตมาอยู่ไกลฟังไม่ค่อยชัดได้ยินว่าเรื่องเงิน แล้วเขาก็ทะเลาะกันอาตมาก็ไปแจ้งเจ้าอาวาส
***ทางด้านนายพัฒนเชษฐ์ กิตติเขียว เล่าว่า ผู้ก่อเหตุนั้นเคยต้องโทษคดี เผานั่งยางอดีตผู้ใหญ่บ้านมาก่อนแต่ศาลยกฟ้อง เค้าไม่รับสารภาพ ก็สู้คดีศาลยกฟ้องติดคุกอยู่ 6 ปี เค้ามีพฤติกรรมชอบหาเรื่องคนที่อ่อนแอร์กว่า ก่อนหน้านี้มีปัญหากับคนในครอบครัวใช้ด้ามปืนทุบหัวพี่เขย ก่อนจะมาก่อเหตุ
***พ.ต.ท.ภานุรุจ แสงสร้อย รอง ผกก.ป.สภ.วังชิ้นฯ กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาไม่ได้ตั้งใจไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายมีการแย่งอาวุธกัน สำหรับสาเหตุที่เข้าไปคือไปทวงหนี้พระสำหรับสาเหตุที่เข้าไปคือไปทวงหนี้พระ แต่พระมีการบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่าย ยังมีเหตุทำร้ายร่างกายกันขึ้นซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายแต่อย่างไรก็ตามต้องดูการสอบสวนของร้อยเวรต้องดูการสอบสวนของร้อยเวรอีกรอบหนึ่งว่ามีเจตนาหรือไม่มีเจตนาดูจากภาพกล้องวงจรปิดเบื้องต้นได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่น
*** ต่อมาญาติของพระศรัญญู ถาเป็ง ผู้เสียชีวิต ได้ไปรับร่างของพระศรัญญูฯ กลับมาทำพิธีทางศาสนาที่วัดสัมฤทธิบุญ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้ามีญาติมารอรับศพ พร้อมชาวบ้าน โดยจะทำการฌาปนกิจศพในวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568 นี้