ลำปาง_พบทุนจีนเทายังกว้านซื้อไม้หวงห้ามที่บักลอบตัดในพื้นที่ จังหวัดลำปาง ต่อเนื่อง ล่าสุด จ้างคนดูต้นทาง วงเงินถึง 2.7 แสน บาท หากสามารถนำไม่ประดู่ท่อน ออกจากป่าได้ ซึ่งไม้ท่อนดังกล่าวมีการซื้อด้วยมูลค่ากว่า 1.3 ล้านบาท หากข้ามชายแดนไทยไปได้จะเพิ่มมูลค่า 3-4 เท่าตัว.

วันนี้ ณ ที่บริเวณกลางไร่ข้าวโพด ของชาวบ้านในพื้นที่ บ้านขุนแม่หวด หมู่ 4 ตำบลบ้านหวด อำเภองาว จังหวัดลำปาง ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เมาะ นายจีระ ทรงพุฒิ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) พร้อมด้วย นายประกาสิทธิ์ นางวงค์ หน.ป้องกันรักษาป่าที่ ลป.19 (แม่โป่ง) , นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.20 (แม่หวด) ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ลำปาง ชุดที่ 1 นายเมธี ศาสตร์ศรี นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าชุดศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ นายสมจิตร จุนเจริญ นายอำเภองาว เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ อส.อำเภองาว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.งาว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. สายที่ 1 ลำปาง เจ้าหน้าที่ ออป.จ.ลำปาง เข้าทำการตรวจยึดไม้ประดู่ลายเสือ ที่วัดโคนต้นโดยรอบได้ 4 เมตร มีความยาวกว่า 12 เมตร ถูกตัดเป็นท่อน 3 ท่อน แต่ละท่อนน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 1 ตัน ซุกอยู่กลางแปลงข้าวโพดดังกล่าว เพื่อรอการลักลอบขนย้ายออกจากพื้นที่ เนื่องจากว่าการข่าวเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า ไม่จำนวนนี้ มีนายทุนเป็นชาวจีน หรือทุนจีนเทา เข้ามาดูและตกลงซื้อในราคา 1.3 ล้านบาท โดยจะทำการลักลอบขนย้ายทันทีหากเจ้าหน้าที่เผลอ เนื่องจากมีการว่าจ้าง คนในพื้นที่บางกลุ่มดูต้นทาง หากสามารถขนย้ายออกจากพื้นที่ ขึ้นสู่ถนนสายหลักได้สำเร็จ จะได้ค่าจ้างจากการดูต้นทางถึง 2.7 แสนบาท แต่เจ้าหน้าที่สืบทราบก่อนจึงได้มีการเฝ้าติดตาม พฤติกรรมอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 1 ปี และเจ้าหน้าที่ได้มีการฝัง GPS ไปในท่อนไม่ดังกล่าว เพื่อหวังว่าจะติดตามจับกุมให้ได้ทั้งขบวนการ แต่กลับพบว่ากลุ่มมอดไม้ไกลุ่มนี้ ก้าวหน้ามากขึ้นมีเครื่องตัดสัญญาณติดตามและเครื่องแสกน GPS เนื่องจากว่าสัญญาณหลุดกายในที่เกิดเหตุ ทำให้ในวันนี้จึงเข้าตรวจยึดดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายทันที สำหรับไม่ชุดนี้ ที่มีราคาในตลาดมืดสูงถึง 1 ล้านกว่าบาท เพราะเป็นไม้ประดู่ลายเสือ ซึ่งเป็นไม้หายากมากที่สุดและไม่ค่อยพบเจอบ่อยครั้งเนื่องจากเนื้อไม้ออกลายไม้ที่สวยงาม สาเหตุหลักๆมาจากควาทมาจากการผิดปกติการเจริญเติบโตของต้นไม้ต้นนี้ และคาดว่าจะมีมาอยุมากกว่า 200 ปี หากหลุดข้ามขามชายแดนไปได้ มูลค่าไม้ชุดนี้จะเพิ่มขึ้นมากถึง 3- 4 เท่าตัว.