1

เกษตรแพร่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การผลิตพริก ในอำเภอหนองม่วงไข่ แนะกษตรกรรายเดี่ยวเข้ารวมกลุ่มแปลงจะขายได้ราคาดี ผ่านมาพริกคุณภาพของจังหวัดแพร่ขายไปแล้วมูลค่า 66 ล้าน


เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ที่แปลงพริก หมู่ที่ 4 ตำบลหนองม่วงไข่ อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ นางสาวอัญชลี ปัญญากวาว เกษตรจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า สถานการณ์การผลิตพริกของจังหวัดแพร่ ในรอบการเพาะปลูก ปี 2567/68 จังหวัดแพร่มีพื้นที่เพาะปลูกพริกทั้งหมด 1,092.63 ไร่ ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอร้องกวาง มีพื้นที่เพาะปลูกพริก 93.63 ไร่ อำเภอสอง มีพื้นที่เพาะปลูกพริก 462 ไร่ และอำเภอหนองม่วงไข่ มีพื้นที่เพาะปลูกพริก 537 ไร่ ซึ่งเป็นแหล่งพื้นที่ที่มีการปลูกพริกแหล่งใหญ่ของจังหวัดแพร่ โดยพันธุ์พริกที่เกษตรกรนิยมปลูก ได้แก่ พันธุ์หยกสยาม และเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 – มีนาคม 2568 ปัจจุบันมีผลผลิตออกสู่ตลาดแล้ว ประมาณ 1,225 ตัน (ร้อยละ 30) ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ ประมาณ 4 ตัน สำหรับสถานการณ์ด้านการตลาดพริก ราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ระหว่าง 18 – 21 บาทต่อกิโลกรัม (ตามคุณภาพ)

เกษตรจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ในห้วงวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา จังหวัดแพร่ โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดแพร่ ได้จัดงานแถลงข่าวประชาสัมพันธ์พริกเมืองแพร่ เป็นการยกระดับการผลิตภาคการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าพริกจังหวัดแพร่ รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งด้านการผลิตและการตลาดของสินค้าพริกจังหวัดแพร่ โดยได้จัดขึ้น ที่แปลงพริกนางสายทอง สุทธกัน สมาชิกแปลงใหญ่ตำบลหนองม่วงไข่ อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ ซึ่งกลุ่มแปลงใหญ่ดังกล่าว ได้มีการผลิตพริกคุณภาพ มีการนำงานวิจัยและเทคโนโลยีการใช้ระบบน้ำเพื่อการผลิตและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพริกคุณภาพอย่างถูกต้อง ประกอบกับกลุ่มเกษตรกรได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP โดยภายในงานมีการแถลงข่าวประชาสัมพันธ์พริกเมืองแพร่ มีการเจรจาธุรกิจดำเนินการซื้อ-ขายพริกจังหวัดแพร่ มีการเชื่อมโยงการตลาดโดยมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างผู้ประกอบการรับซื้อพริก จำนวน 4 บริษัท กับกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่พริก จำนวน 5 แปลง ซึ่งราคาอยู่ระหว่าง 20 – 28 บาทต่อกิโลกรัม (ตามคุณภาพ) โดยเดือนที่ต้องการผลผลิต ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 – พฤษภาคม 2568 ประมาณความต้องการผลผลิตพริกรวม 3,019 ตัน​ คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 66 ล้านบาท

สำนักงานเกษตรจังหวัดแพร่ ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้เกษตรกรมีศักยภาพในการผลิตพริกคุณภาพ มีการรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ และสามารถนำองค์ความรู้ และเทคโนโลยีไปปรับใช้ เพื่อเพิ่มรายได้จากการผลิตพริก ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดี

สำหรับเกษตรกรรายเดี่ยว หรือรายย่อย ได้แนะนำให้เกษตรกรรวมกลุ่ม วางแผนการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิต และสามารถต่อรองกับผู้ประกอบการในการจำหน่ายผลผลิตได้ เมื่อกลุ่มมีความเข้มแข็งให้เกษตรกรเข้าสู่ระบบแปลงใหญ่ เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการผลิตของชุมชนแบบครบวงจร และการเชื่อมโยงกันระหว่างเกษตรกร ผู้ประกอบการ สหกรณ์การเกษตร เพื่อให้เกษตรกรจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรม

นอกจากนี้ ได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกพืช แจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรหลังจากทำการเพาะปลูกพืชแล้ว 15 วัน สำหรับไม้ผล ไม้ยืนต้น หลังจากปลูกแล้ว 30 วัน หากยืนต้นอยู่ให้ปรับปรุงเป็นประจำทุกปี เพื่อข้อมูลในการรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เมื่อมีโครงการช่วยเหลือจากภาครัฐ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด หรือสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน.//