เจ้าของร้านอาหารปลาเผาชื่อดัง จ.สงขลา แจ้งความ ถูกปลอมบัตรประชาชนสวมสิทธิ์”เราชนะ” แต่เงินในบัญชีเกิน 5 แสน จึงเปลี่ยนแผนขอถอนเงินในบัญชีแทน แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารผิดสังเกตุจึงตรวจสอบ พบเลขบัตรประชาชน ที่อยู่ตรงกันหมด ยกเว้นรูปถ่ายจึงอายัดบัญชีไว้ จนท.เตรียมติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.64 นางเบญจวรรณ หอมสมบัติ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ถนนจันทร์นิเวศน์ 2 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าของร้านอาหารแม่เบญปลาเผา ถึง 2 สาขา ร้านอาหารชื่อดังซึ่งตั้งอยู่ย่านถนนสาครมงคล อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้นำเอกสารหลักฐานเดินทาง เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อดินันท์ หมดจด รอง สว.(สอบสวน) ที่ สภ. เขาพนม จ.กระบี่ ภายหลังถูกธนาคารอายัดบัญชี ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ เนื่องจากมีคนนำบัตรประชาชนของตนเอง ไปทำเรื่องเบิกถอนเงินที่ธนาคารกรุงไทย สาขาเขาพนม จังหวัดกระบี่ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
นางเบญจวรรณ ฯ ให้การว่า สาเหตุที่ตนถูกอายัดบัญชี เนื่องจาก ว่ามีคนใช้บัตรประชาชนเพิ่งทำใหม่ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ชื่อนามสกุล ที่อยู่ และเลขไอดี ตรงกันทุกประการ ยกเว้นรูปถ่าย โดยตอนแรกคนร้ายมีเป้าหมายจะสวมสิทธิ์เงินโครงการเราชนะ เพื่อรับเงิน 7 พันบาท จึงไปขึ้นทะเบียนที่ธนาคาร แต่ไม่ได้สิทธ์ เนื่องจากธนาคารแจ้งว่า มีวงเงินในบัญชีเงินเกิน 500,000 บาทจึงเปลี่ยนแผน ถอนเงินจากบัญชีแทน แต่ธนาคารกรุงไทยสาขา เขาพนม กระบี่ แจ้งว่า การเบิกถอนเงินหากไม่มีสมุดบัญชี ไม่สามารถเบิกเงินได้ เบิกได้เฉพาะที่สาขาที่เปิดบัญชีไว้เท่านั้น คือที่สาขาหาดใหญ่ จึงทำให้คนร้ายไม่ได้เงินไป ขณะที่ตนซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีตัวจริงก็ไม่สามารถเบิกถอนเงินได้เช่นกัน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และเกรงว่าจะเกิดความเสียหายทางด้านอื่นๆตามมา เพราะเพราะคนร้ายใช้บัตรประจำตัวประชาชน ใบเดียวกับตน และในบัญชีมีเงินอยู่กว่า 1 ล้านบาท เบื้องต้นทาง เจ้าหน้าที่จึงได้แนะนำให้ไปติดต่อที่งานทะเบียนอำเภอเขาพนม เพื่อดำเนินการตรวจสอบ เพื่อทำบัตรประชาชนใหม่ และสืบหาตัวคนที่สวมบัตรประชาชนมาดำเนินคดี
ตนไม่เข้าใจว่าทำไม่เจ้าหน้าที่จึงออกบัตรให้กับหญิงคนดังกล่าวได้อย่างไร ทั้งที่ลายนิ้วมือไม่ตรงกัน” นางเบญจวรรณฯ กล่าว
ต่อมานางเบญจวรรณฯได้เดินทางไปที่งานทะเบียนที่ ว่าการอำเภอเขาพนม เพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นพบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทำบัตรใหม่ไปแล้วเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยใช้เชื่อนามสกุลเดียวกับของตน แต่ใบหน้าไม่เหมือนกัน ซึ่งมีผู้หญิงคนดังกล่าวใช้เอกสารบัตร สปสช. หรือบัตร 30 บาท มายื่นขอทำบัตรประชาชนใหม่ โดยนางสาวอรุณกมล เครือเปรม จนท.พิมพ์บัตร กล่าวว่า ตอนแรกก็สงสัย เพราะสแกนลายนิ้วมือหลายครั้งไม่ผ่าน อีกอย่าหน้าตาก็ไม่ตรงกับบัตรประชาชนเดิมที่ปรากฎในระบบคอมพิวเตอร์ จึงบอกไปว่าไม่สามารถทำบัตรใหม่ให้ได้ จะต้องมีบุคคลในพื้นที่เซ็นรับรอง แต่หญิงคนดังกล่าวบอกว่าทำศัลยกรามาหน้าตาจึงเปลี่ยนไป ต่อมาหญิงคนดังกล่าว ได้นำนายสมบัติ ไม่ทราบนามสกุล มาเซ็นรับรองให้ และได้ปรึกษากับหัวหน้างานแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ออกบัตรประชาชนให้ไป
ขณะที่นายอิทธิเชษฐ์ โภคินธนวัฒน์ ปลัดอาวุโสอำเภอเขาพนม กล่าวว่า หลังเจ้าของบัตรตัวจริงไปแสดงตน พร้อมหลักฐาน ในเบื้องต้นได้ให้ทำบัตรประชาชนใหม่ เพื่อนำไปใช้ทำธุรกรรมทางการเงินได้ตามปกติ โดยจะยกเลิกบัตรประชาชนที่มีบุคคลต้องสงสัยมาทำไว้ก่อนหน้านี้ทันที และนอกจากนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความไว้แล้ว ในข้อหาให้เจ้าพนักงานลงรายการอันเป็นเท็จ ทุจริตส่งตัวทำบัตร และมีการนำที่ได้จากการให้ข้อมูลเป็นเท็จไปใช้ ผลเพื่อประโยชน์โดยมิชอบดำเนินคดีตามพ.ร.บ.ทะเบียนบัตรประชาชน พ.ศ.2526 ต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.นพดล มุกดา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เขาพนม เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นคาดว่าผู้ต้องหาที่ไปทำบัตรประชาชน โดยสวมชื่อนางเบญจวรรณฯ ผู้เสียหาย เพื่อต้องการที่จะสวมสิทธิ์ รับเงินโครงการ”เราชนะ”เท่านั้น แต่พอรู้ว่าเงินในบัญชีของผู้เสียหายมีจำนวนมา จึงเปลี่ยนแผนไปขอเบิกเงินจากบัญชี แต่โชคดีที่ธนาคารได้ยัดไว้ก่อน ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ออกติดตามตัวบุคคลดังกล่าว มาทำการสอบสวนที่ สภ. เขาพนม หากไม่มา ก็จะออกหมายเรียกต่อไป
ภาพ – ข่าว ณัฏฐพงษ์. ศรีปล้อง จ.กระบี่
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา