กธจ.แพร่ ลงพื้นที่สอดส่อง ตรวจติดตามการดำเนินโครงการสำคัญในจังหวัดแพร่ เชิญหน่วยงานรับผิดชอบให้ข้อมูล ชี้แจง เพื่อเสนอแนะให้กา รดำเนินการเป็นไปด้วยความโปร่งใส และคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 นายอิทธิพล ช่างกลึงดี ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 16 เป็นประธานประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดจังหวัดแพร่ ที่ห้องประชุมเวียงโกศัย ศาลากลางจังหวัดแพร่ เพื่อรับทราบผลการสอดส่อง เฝ้าระวังการดำเนินโครงการสำคัญในจังหวัดแพร่ โดยเชิญ 5 หน่วยงานดำเนินโครงการเข้าให้ข้อมูล ประกอบด้วย โครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวตำบลป่าแมต สร้างหอชมวิวริมแม่น้ำยม งประมาณ 5.6 ล้าน โดยเทศบาลตำบลป่าแมตรับผิดชอบ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ขอคืนงบประมาณ ไม่สามารถดำเนินโครงการได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการขอถอนสภาพและใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะ
นอกจากนี้ยังมีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงสายหลัก เพื่อสนับสนุนเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และยั่งยืน หมายเลข 101 ตอน แยกนาแหลม – หนองห้า ตอนที่ 2 งบประมาณ 9.8 ล้านบาท และทางหลวงหมายเลข 1022 แยกนาจักร – น้ำกาย งบประมาณ 26 ล้านบาท อยู่ในความรับผิดชอบของแขวงทางหลวงแพร่, โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองแบบบูรณาการ งบประมาณ 5.7 ล้านบาท สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่เป็นหน่วยรับผิดชอบ โครงการบูรณาการการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัด จัดมหกรรมดนตรีล้านนาตะวันออก งบประมาณ 5.5 ล้านบาท สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่รับผิดชอบ และโครงการบูรณาการสิ่งแวดล้อมและสาธารณภัย การเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 งบประมาณ 4.5 ล้านบาท ของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่
ทั้งนี้ กธจ.แพร่ ได้รวบรวมข้อเสนอแนะเบื้องต้น ก่อนเสนอโครงการขอรับงบประมาณให้หน่วยดำเนินการตรวจสอบข้อมูลให้มั่นใจว่าหากได้รับอนุมัติแล้วจะสามารถดำเนินโครงการได้ โดยไม่ต้องขอคืนงบประมาณ ซึ่งจะทำให้เสียโอกาสสำหรับโครงการอื่น และการดำเนินงานทุกโครงการ ต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ให้ประชาชนมีส่วนร่วมตรวสอบได้ และคุ้มค่ากับงบประมาณที่ลงไป
ขณะเดียวกัน สำนักงานป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ ให้ติดตามตรวจสอบโครงการเกี่ยวกับการขุดลอก คู คลอง ทั่วประเทศ โดยขอให้ กธจ.ช่วยเฝ้าระวังและสอดส่องอีกทางหนึ่ง ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังดำเนินการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้งบประมาณ.//