1

นักเรียนม.5สู้ชีวิตหลังพ่อแม่แยกทางอยู่ตามลำพังกับน้องสาวต้องทำงานทั้งวันทั้งคืนหารายได้จุนเจือเจ้าอาวาสวัดดังยื่นมือเข้าช่วยรับอุปการะ

วันนี้ 18 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูปลัดสุวัฒนพรหมวิหารคุณ เจ้าอาวาสวัดทรงเสวย รองเจ้าคณะอำเภอสรรคบุรี พร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงเรียน ลงพื้นที่บ้านเลขที่ 183 หมู่ 4 ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท (ตลาดบางกระเบื้อง) เข้าช่วยเหลือ นายเวโรจน์ ศรีสุข (ต้นไม้) อายุ 17 ปี นักเรียนโรงเรียนบุญนาคพิทยาคม และ ด.ญ.ธนัญญา (ต้นข้าว) ศรีสุข อายุ 10 ขวบ นักเรียนโรงเรียนเขื่อนเจ้าพระยา สองพี่น้องที่ถูกพ่อแม่ทิ้งให้อยู่กันตามลำพัง 2 คน พ่อแม่ต่างไปมีครอบครัวใหม่ แม่ส่งเงินมาให้เดือนละ 2,000 บาท ไม่พอเลี้ยงชีพและไปโรงเรียนพี่ชายจึงต้องทำงานหนักทุกอย่าง เพื่อหารายได้เลี้ยงน้อง จนทำให้ผลการเรียนแย่ลง ต่อมามีคนเมตตาสงสารแจ้งเรื่องขอความช่วยเหลือมาทางวัดทรงเสวย
ขณะที่ พระครูปลัดสุวัฒนพรหมวิหารคุณ เจ้าอาวาสวัดทรงเสวย รองเจ้าคณะอำเภอสรรคบุรี กล่าวว่า จากที่ได้รับข้อมูลจาก ผอ.ของทั้ง2โรงเรียน เพราะพี่น้องอยู่กันคนละโรงเรียน ระดับมัธยม และประถม พ่อแม่แยกทางกัน อยู่บ้านกัน 2 คนพี่น้อง เคสแบบนี้จะดูแลเรื่องการเรียนการศึกษา อาตมาอยากให้เด็กมีวิชา ซึ่งจะสามารถไปต่อยอดอาชีพได้ โดยเด็กคนหนึ่งอยู่มัธยม 5 และ อีกคนอยู่ประถม 5 ซึ่งไม่หนักหนากว่าแรงอะไร อีกเพียงปี2ปีจะเรียนจบกันแล้ว อาตมาจึงอยากสานฝันให้เขาได้เรียนจนจบ จะได้มีวิชาติดตัวไว้ทำมาหากิน
เบื้องต้นอาตมาภาพ มอบเงินให้ปีละ 20,000 บาท เป็นทุนการศึกษา ซึ่งทางโรงเรียนไม่มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเทอม จัดให้เรียนฟรีอยู่แล้ว ซึ่งจะมีค่ากินอยู่ ส่วนจะมีกิจกรรมอะไรเพิ่มเติมให้ทางโรงเรียนทั้ง 2 โรงเรียนแจ้งอาตมาภาพ เพื่อทำเบิกที่วัดทรงเสวยเพิ่มเติม หากเรียนจบแล้วอยากจะเรียนอะไรต่อให้แจ้งมาอีกทีหนึ่ง
ด้าน นายไชยโพธิ์ ร่มโพธิ์ ผอ.โรงเรียนบุญนาคพิทยาคม เปิดเผยว่า นักเรียนต้องทำงานส่งน้องเรียน ซึ่งตัวเองเรียนอยู่ ม.5 ตอนกลางคืนต้องมารับจ้างอยู่เวรโรงเรียนเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อหาเงินมาดูแลน้องดูแลตัวเอง นักเรียนถูกพ่อแม่ทิ้งให้อยู่กันลำพังมาได้ ประมาณ 3 ปี บ้านที่อยู่ปัจจุบันพ่อซื้อไว้ก่อนที่จะแยกทางกัน ส่วนแม่มีครอบครัวใหม่ส่งเงินให้ลูกเดือนละ 2,000 บาท ไม่พอค่าใช้จ่าย นักเรียนจึงต้องทำงานหารายได้เพื่อนำมาใช้จ่ายเดือนละประมาณ 5,000 บาท ซึ่งทางโรงเรียนทั้ง 2 แห่งไม่มีค่าเทอม และไม่มีค่าใช้จ่ายกิจกรรมใดๆ ที่นักเรียนต้องจ่ายคือ ค่าอยู่ ค่ากิน ค่าน้ำมันรถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ในมุมมองของเราถือว่านักเรียนสู้ชีวิตมาก ซึ่งอาจอยู่ในเกณฑ์ที่จะออกนอกลู่นอกทางได้ตลอดเวลา แต่นักเรียนยังคงครองตัวเองเป็นแบบนี้ได้ถือว่าเก่งมาก เป็นโอกาสอันดีที่พระครูเข้ามาช่วยเหลือนักเรียน เดิมนักเรียนตั้งใจว่าเรียนจบ ม.6 จะไม่เรียนต่อเพราะไม่มีเงิน แต่จะทำงานส่งน้องเรียนต่อ ซึ่งจากนี้ไปถ้าจบ ม.6 อาจมีผู้ใหญ่ใจดีสนับสนุนให้เรียนต่อ เพื่อให้มีอนาคตที่ดีต่อไปข้างหน้า

ส่วน นายเวโรจน์ ศรีสุข (ต้นไม้) กล่าวว่า ขอขอบคุณพระครูที่มามอบทุนให้ผม ตั้งใจว่าจะเรียนให้จบ สร้างอาชีพและส่งน้องเรียนให้จบ และผมจะเรียนไปด้วย อยากเปิดร้านขายโทรศัพท์ เพราะซ่อมโทรศัพท์เป็น โดยศึกษาด้วยตนเองและมีพี่คนหนึ่งคอยสอน และเคยมีเพื่อนนำมาให้ซ่อมก็ทำได้ ราคาค่าซ่อมขึ้นอยู่กับอาการ เคยได้อยู่ที่ 200-300 บาท อย่างมากเคยได้ 1,00-2,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการนอนเฝ้าโรงเรียนวันละ 100 บาท โบกรถที่ตลาดนัดบางกระเบื้องเช้าวันอาทิตย์ 300 บาท งานเทปูนของชลประทานให้วันละ 150 บาท 2 วัน ช่วงเสาร์-อาทิตย์ และรับจ้างทั่วไป ทั้งตัดหญ้า ถางหญ้า รับทำหมด และที่หลังบ้านปลูกต้นไม้ไว้กินเอง บางส่วนขายเป็นรายได้ด้วย