มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ร่วมกับชุมชนบ้านผาบ่อง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ฟื้นฟูคุณค่าประเพณีวิถีชุมชนไทใหญ่ กิจกรรม จาก “ปอยจ่าตี่” ถึง “ปอยหมั่งกะป่า” เทศกาลแห่งความอุดมสมบูรณ์ของชาวไต
วิรัตน์ แม่ฮ่องสอน
เย็นวันนี้ (7 พ.ค. 2567) เวลา 17.00 น. ที่วัดผาบ่องใต้ ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดกิจกรรม จาก “ปอยจ่าตี่” ถึง “ปอยหมั่งกะป่า” เทศกาลแห่งความอุดมสมบูรณ์ของชาวไต โครงการวิจัย ปอยหมั่งกะป่า : การฟื้นคุณค่าประเพณีเขาวงกต จากวิถีชุมชน ไทใหญ่บ้านผาบ่องสู่เทศกาลวัฒนธรรมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ร่วมกับชุมชนตำบลผาบ่อง จัดกิจกรรมขึ้นเพื่อร่วมสืบสานประเพณี ปอยจ่าตี่ หรือประเพณีถวายเจดีย์ทรายของชาวไต หรือไทใหญ่บ้านผาบ่อง และบูรณาการองค์ความรู้จากงานประเพณีสู่การสร้างสรรค์สื่อการเรียนรู้สำหรับคนทุกช่วงวัย อีกทั้งเป็นหมุดหมายสำคัญในการเริ่มต้น การฟื้นคุณค่าประเพณี “ปอยหมั่งกะป่า” หรือประเพณีเขาวงกต ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงระหว่าง วันที่ 6-9 พฤศจิกายน 2567 ตลอดจนประชาสัมพันธ์การฟื้นฟูประเพณีปอยหมั่งกะป่า และกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง ของชุมชนบ้านผาบ่อง และชุมชนที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ประเพณีปอยหมั่งกะป่าหรือเขาวงกต เป็นประเพณีของชาวไทใหญ่ที่นิยมจัดขึ้นในช่วงหลังเทศกาลออกพรรษา โดยมีความเชื่อมาจากเวสสันดรชาดก เชื่อว่าการบูชาเขาวงกต จะบังเกิด ความอุดมสมบูรณ์ ทั้งโภชนอาหาร ทรัพย์ ยศ ศักดิ์ โชคลาภ และเป็นปริศนาธรรมสอนใจแก่พุทธศาสนิกชน เขาวงกตจะนิยมจัดในเมืองใหญ่ หรือชุมชนขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม เพราะต้องใช้ทรัพยากรมาก และนิยมจัดติดต่อกัน 3 หรือ 5 หรือ 7 ปี จากการสืบค้นทางประวัติศาสตร์ ซึ่งชุมชนผาบ่องเคยจัดประเพณีเขาวงกต เมื่อ พ.ศ. 2509 – 2511 และเมื่อ พ.ศ. 2563 โดยโครงการวิจัยฯ ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากวิทยสถาน “ธัชภูมิ” เพื่อการพัฒนาพื้นที่ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และร่วมกับชุมชนรื้อฟื้นการจัดปอยหมั่งกะป่าขึ้น เพื่อเป็นการอนุรักษ์ สืบสาน ประเพณีอันดีงาม และพัฒนาสู่การเป็นต้นแบบการรื้อฟื้นประเพณีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรม โดยจะจัดในช่วงวันที่ 6-9 พฤศจิกายน 2567 สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ จะเป็นการประกอบพิธีตัดและผ่าไม้ ที่ใช้สำหรับสร้างเขาวงกต หรือหมั่งกะป่าเป็นปฐมฤกษ์
//////////////////