1

เสือโคร่ง ไม่ยอมเข้าป่า ออกอาละวาดหนัก ไล่กัดสัตว์เลี้ยงชาวบ้าน

เสือโคร่ง จากห้วยขาแข้ง ยังไม่กลับเข้าป่า สายวันนี้ กัดแพะของชาวบ้าน ตายไป 1 ตัว บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ตัว เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มข้นในการผลักดัน

นายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) รายงานว่า

เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่ชุดคชสาร ของ
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้รับรายงานว่า เสือโคร่งเข้ามาทำร้ายแพะของชาวบ้าน บริเวณบ้านบึงเจริญ ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ห่างจากแนวเขตของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ประมาณ 1.5 กม. จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่รีบรุดไปที่เกิดเหตุ

จากการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว เสือโคร่งได้ทำร้ายแพะของนายสมาน ศีรชนิล อายุ 72 ปี บ้านเลขที่ 6 หมู่ 9 ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี จำนวน 2 ตัว ทำให้แพะเพศผู้ ซึ่งเป็นแพะพ่อพันธ์ุ ได้รับบาดเจ็บ 1 ตัว แพะเพศเมียที่กำลังตั้งท้อง ตาย 1 ตัว

นายตรศักดิ์ นิภานันท์
หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้ส่งนายสัตวแพทย์ของสถานีฯ มาช่วยทำแผลและฉีดยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวด และแนะนำให้เจ้าของแพะนำแพะที่บาดเจ็บ เข้าไปนอนร่วมกับฝูง เพื่อเพิ่มความอบอุ่นด้านจิตใจ และหลีกเลี่ยงการรบกวนและกลัวคน

จากการประสานงานกับหัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ พบว่าเสือตัวนี้ ไม่ได้ติดวิทยุติดตามตัว จึงต้องใช้เจ้าหน้าที่ติดตามจากรอยแทน โดยเจ้าหน้าที่พบร่องรอยที่เป็นรอยเสือนอน ห่างจากจุดที่แพะถูกทำร้ายประมาณ 400-500 เมตร

หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้ประสานขอกำลังเสริมจากหัวหน้าพื้นที่เตรียมการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทับเสลา เพื่อเพิ่มความถี่ และขยายพื้นที่ในการรบกวนเสือเพื่อผลักดันให้เสือกลับป่าโดยด่วนต่อไป

ในขณะเดียวกันได้ประสานแจ้งผู้นำชุมชนในพื้นที่ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านระมัดระวังตนเองและสัตว์เลี้ยง

ด้าน นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ได้เป็นผู้แทน นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ลงพื้นที่ พบปะกับเจ้าของวัว และ แพะ ที่ถูกเสือทำร้าย โดยได้แจ้งเจ้าของว่าจะส่งทีมนายสัตวแพทย์ มารักษาพยาบาลสัตว์เลี้ยงที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำร้ายของเสือ อย่างดีที่สุด

พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้เสือยังไม่กลับเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เสือยังคงวนเวียนอยู่ตามชายขอบแนวเขต จึงถือว่ายังอยู่ในช่วงอันตราย ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวัง พร้อมฝากพี่น้องประชาชน ให้ช่วยกันแจ้งเบาะแสการเคลื่อนไหวของเสือ และให้ต้อนสัตว์เลี้ยงเข้าคอกในแต่ละวันเร็วขึ้น ช่วงกลางคืน หากไม่จำเป็น ไม่ควรออกจากบ้าน