จับโรงงานโรงงานทำไม้เถื่อนที่บ้านกวาง ชาวบ้าน แย้ม ยังมีอีกเยอะ ถ้าเอาจริง
*ตั้ง 5 ข้อหาหนัก เปิดโรงงานแปรรูปไม้ท้ายหมู่บ้าน ชาวบ้านร้องขอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ สงสัยว่าจะมีการข้องเกี่ยวกับยาเสพติดเนื่องจากเปิดทำงานทั้งวัน ทั้งคืน เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพบไม้สักท่อน ไม้สักที่แปรรูปแล้ว และที่ประกอบเป็นเฟอร์นิเจอร์แล้ว พร้อมอุปกรณ์ทำไม้เพียบ สอบถามไม่มีใบอนุญาตตั้งโรงงาน อ้างไม้ซื้อมาจากอีกหมู่บ้านใกล้ๆ กัน พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือยาบ้า จำนวน 3 เม็ด พร้อมอุปกรณ์ในการเสพ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ร.ต.อ.ประยูร ท่าช้าง พนักงานสอบสวน สภ.บ้านกวาง อ.สูงเม่น จ.แพร่ รับแจ้งจาก นายพิษณุพันธ์ วงศ์ขันธ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่, ร.ต.อ.อำนวย จันทะวงษ์ พร้อมเจ้าหน้าที่งานตำรวจ กก.4 บก.ปทส., เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 32 พะเยาโดย ด.ต.ภูดิส ต๊ะนิล โดยร่วมกับ พ.ต.ท.คริสมาส เฮียงก่อ สว.สส.สภ.บ้านกวาง, ฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่ โดย นายพนม สมนึก ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดแพร่ และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.9 (ช่อแฮ) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลังเข้าตรวจสอบโรงงานไม้แปรรูป เลขที่ 218 หมู่ 5 ต.บ้านเหล่า อ.สูงเม่น จ.แพร่ พบ นายสุกรรณ มีเดช อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 180 หมู่ 7 ต.บ้านเหล่า อ.สูงเม่น จ.แพร่ รับว่าเป็นเจ้าของโรงงานดังกล่าว และไม่เคยขอใบอนุญาตในการตั้งโรงงานมาก่อนเพิ่งเปิดมาได้เพียง 1 เดือน โดยเช่าพื้นที่ตรงนี้ เดือนละ 2,000 บาท และรับซื้อไม้มาจากหมู่บ้านใกล้เคียง
เบื้องต้นตรวจสอบพบไม้สักท่อน จำนวน 82 ท่อน ไม้สักแปรรูป 23 แผ่น/เหลี่ยม เฟอร์นิเจอร์ตู้ไม้สัก จำนวน 2 หลัง เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง และอุปกรณ์ในการแปรรูปไม้อีก 7 รายการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดอุปกรณ์และไม้ทั้งหมดไว้ เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนส่งมอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต, ตั้งโรงงานแปรรูป ทำการแปรรูปไม้และมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ตั้งโรงงานแปรรูปไม้และตั้งโรงงานเพื่อประดิษฐกรรมโดยใช้เครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไม้สักที่ไม่ได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ซึ่งขณะเข้าตรวจสอบพบ ในบริเวณโรงงานพบคนงานชายอายุ 34 ปี มียาบ้าในครอบครอง 3 เม็ดพร้อมอุปกรณ์เสพ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป