ชาวสวนทุเรียนหนองเสือโอดภัยแล้งมาไวหวั่นอวสานทุเรียนหนองเสืออันโด่งดัง

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี นั้นเกษตรกรผู้ทำนาทำสวนต่างได้รับผลกระทบจากภัยแล้งกันเป็นจำนวนมาก โดยน้ำในคลองชลประทานต่างๆในอำเภอหนองเสือ ต่างลดระดับแห้งขอดจนไม่สามารถสูบน้ำเข้าหล่อเลี้ยงพืชผลทางการเกษตรได้ โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนหนองเสือที่โด่งดังไปทั่วประเทศนั้นได้รับผลกระทบอย่างหนักต้นทุเรียนยืนต้นตายไปแล้วกว่า 500 ต้นจากภัยแล้งดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าวที่ สวนทุเรียนสุพจน์ ตั้งอยู่ที่ ถนนเลียบคลองเก้า หมู่ที่ 7 ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัด โดยนายสุพจน์ ตันพิชัย เจ้าของสวนทุเรียนหนองเสือ กล่าวว่าสวนทุเรียนสุพจน์นั้นได้ปลูกทุเรียนเอาไว้จำนวน 50 ไร่ซึ่งมีชื่อเสียงระดับประเทศมีประชาชนต่างแห่เดินทางมารองชิมรสชาติความอร่อยในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตกันอย่างไม่ขาดสายในทุกปี แต่ขณะนี้ทุเรียนหนองเสือของตนเองได้รับผลกระทบจากภัยแล้งน้ำในคลองชลประทานแห้งขอดไม่สามารถสูบเข้าหล่อเลี้ยงพืชผลได้ส่งผลให้ต้นทุเรียนทยอยยืนต้นตายไปแล้วกว่า 500 ต้น

โดยทุเรียนของเราได้รับผลกระทบจากภัยแล้งต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาพอมาในปีนี้ภัยแล้งมาไวกว่ากำหนดน้ำภายในสวนที่กักตุนเอาไว้หล่อเลี้ยงผลผลิตมีใช้ไม่ถึงเดือน ซึ่งหากเป็นอย่างนี้ต่อไปคาดว่าทุเรียนหนองเสือที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั้นผลผลิตที่จะออกในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ซึ่งทุเรียนหนองเสือคงจะต้องอวสานและสูญหายไปจากทุ่งรังสิตอย่างแน่นอนหากไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาวิธีแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร

ซึ่งหากหน่อยงานภาครัฐมัวแต่นำน้ำไปดันน้ำเค็มหรือผลิตน้ำประปาโดยไม่ผันน้ำมาให้เกษตรกรได้ใช้บ้างเชื่อว่าทั้งสวนทุเรียนและสวนอื่นๆนั้นได้รับผลกระทบทั้งหมดคาดว่าไม่เกินหนึ่งเดือนหลังจากนี้ ในขณะที่ตอนนี้ตนเองได้มีการปลูกพืชอื่นขึ้นมาทดแทนแล้วเช่นกล้วยน้ำว้า มังคุด เพื่อทดแทนหากทุเรียนตายไปทั้งหมด

ภาพข่าว.กำพล วงศ์สุทธา/0805929659