กรณีพบผู้ติดเชื้อเชียงรายเที่ยวเชียงใหม่ ยืนยันมีความปลอดภัยสูง ชี้ผ่านระยะ 14 วัน พร้อมตรวจผู้เสี่ยงสูงครอบคลุม ย้ำไม่พบผู้ติดเชื้อเป็นวันที่เก้าแล้ว คกก.โรคติดต่อเชียงใหม่วางมาตรการให้สถานบริการปรับปรุงระบบระบายอากาศ ใช้ช่วงสั่งปิดให้ทำการปรับปรุง
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 64 ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ประจำวันที่ 21 ม.ค. 64
นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่วันนี้มีการพูดคุยในหลายประเด็นซึ่งสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ การประชุมวันนี้มีการหารือกันในเรื่องการระบายอากาศในสถานบริการ รวมถึงสถานประกอบการคล้ายสถานบริการ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีการระบายอากาศไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคดังที่ปรากฏ ที่ประชุมเห็นว่า สถานบริการรวมถึงสถานประกอบการคล้ายสถานบริการต้องจัดระบบระบายอากาศให้เป็นไปตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายควบคุมอาคาร ซึ่งช่วงนี้ทั้งกิจการประเภทนี้อยู่ระหว่างคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่สั่งปิดให้บริการ ก็จะถือเอาช่วงนี้เป็นช่วงในการปรับปรุงให้มีการจัดระบบระบายอากาศที่เหมาะสมกับสถานที่ต่อไป
ด้าน ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงความคืบหน้า สถานการณ์โควิด- 19 จังหวัดเชียงใหม่(ระลอกใหม่) นับเป็นวันที่ 9 แล้ว ที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม ยอดผู้ป่วยสะสม 23 ราย รักษาหายกลับบ้าน 14 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 9 ราย(รพ.นครพิงค์ 5 ราย, รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ 1 ราย, รพ.ประสาท 3 ราย) ผู้ป่วยทุกรายอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเข้าสู่ระยะปลอดภัยจากการแพร่โรค ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ตามมาตรฐานกรมการแพทย์ และทางทีมสาธารณสุขก็มีการติดตามผู้ที่กลับบ้านแล้ว เพื่อสังเกตอาการจนครบ 28 วัน
สำหรับกรณีมีรายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 จังหวัดเชียงราย รายล่าสุด ชายไทย อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ตรวจพบติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 64 มีประวัติเดินทางมาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วง 26 ธ.ค. 63 – 4 ม.ค. 64 จากการตรวจสอบ พบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าว เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในกลุ่มเดียวกันกับผู้ป่วยโควิด-19 ที่พบการระบาดในร้านวอร์มอัพ คาเฟ่ เชียงใหม่ วันที่ 31 ธ.ค. 63 และที่ร้านริเวอร์ไซด์ วันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา เมื่อทราบว่าเพื่อนที่ร่วมโต๊ะ มีการติดเชื้อโควิด-19 จึงได้เดินทางกลับไปกักตัวที่จังหวัดเชียงราย เมื่อครบระยะเวลากักตัวจึงกลับไปตรวจเพื่อขอผลกลับไปทำงาน
จึงขอเรียนพี่น้องชาวเชียงใหม่ว่า ตามไทม์ไลน์ดังกล่าวไม่ต้องมีความกังวล เพราะเมื่อนับระยะเวลาที่เดินทางมาเชียงใหม่เกิน 14 วันแล้ว อยู่ในระยะที่ปลอดภัยและทางจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูงทั้งหมด ทั้งที่วอร์มอัพและที่ริเวอร์ไซต์ และอีกหลายๆ แห่ง ก็ไม่พบมีการติดเชื้อเพิ่มแต่อย่างใด จนขณะนี้เราไม่พบมีผู้ติดเชื้อในจังหวัดเชียงใหม่เป็นวันที่ 9 แล้ว
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนทุกคน เฝ้าระวังและดูแลตนเองตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค การเว้นระยะห่างระหว่างกัน สวมหน้ากากอนามัย/ ผ้า ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ การสแกนแอปพลิเคชั่นไทยชนะทุกครั้งที่เข้ารับบริการ และการสังเกตอาการตัวเอง หากมีอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส ขึ้นไป ร่วมกับมีอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง (ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก) ให้รีบพบเจ้าหน้าที่ที่หน่วยบริการใกล้บ้าน เพื่อเข้ารับการตรวจทันที
หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์โควิด-19 สสจ.เชียงใหม่ โทร 053-211048-50 หรือ 084 8052121, 084 8053131 ในวันและเวลาราชการ หรือสอบถามสถานบริการใกล้บ้าน