สถานการณ์ของฝุ่นละออง ไฟป่าและหมอกควันในจังหวัดแม่ฮ่องสอนล่าสุดวันนี้ (วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566) จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศทั้ง 3 จุดหลักในเมืองหัวใจของการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น ล้วนเกินค่ามาตรฐานอีกครั้งเป็นวันแรก หลังจากได้พายุฝนมาช่วยลดปัญหาทันเหตุการณ์เมื่อตันสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยวันนี้พบว่าผลจากเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ตั้งอยู่ภายในสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน วัดได้ 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานต้องไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ที่อำเภอแม่สะเรียงวัดได้ 66 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและที่อำเภอปายวัดได้ถึง 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเฉพาะที่อำเภอปายเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปเดินทางพักผ่อนและสนุกกับหลากหลายกิจกรรมอยู่ในขณะนี้ ก็หนีไม่พ้นกับสภาพของหมอกควันที่ปกคลุมกลายเป็นฟ้าหลัวแทบทั้งวัน กลายเป็นข้อวิตกของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวอย่างมาก ยิ่งเลยเข้าสู่เดือนมีนาคม-เมษายน สถานการณ์น่าจะรุนแรงมากกว่านี้ก็เป็นได้ หากยังคงพบพื้นที่หรือจุดเกิดไฟมากตามขึ้นไปอีกอย่างควบคุมไม่ได้
เช่นเดียวกับในพื้นที่ของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ที่พบกลุ่มหมอกควันลอยตัวปกคลุมในตัวเมืองทั่งวัน อันเป็นผลมาจากสภาพพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ ไม่มีลมพัดพาหมอกควันออกไป ประกอบกับเรดาร์ตรวจพบจุดเกิดไฟ (Hot Spot) จำนวนมากจากการเผาป่าและพื้นที่การเกษตรของเพื่อนบ้าน แล้วลมพัดพาหมอกควันเข้ามาปกคลุมตัวเมืองแม่ฮ่องสอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบว่าความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในช่วงนี้ที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูร้อนก็กลายเป็นปัจจัยเร่งอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน ศูนย์ควบคุมและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ไฟป่าและหมอกควันจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์ทุกสัปดาห์ พร้อมกับแจ้งให้ทุกอำเภอเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะรุนแรงขึ้นได้ ทั้งเรื่องของภัยแล้ง ไฟป่า หมอกควัน และเน้นย้ำให้แต่ละชุมชนเร่งทำแนวกันไฟ กำจัดเชื้อไฟ-ใบไม้แห้งอย่างถูกวิธีหรืองดใช้วิธีการเผาอย่างสิ้นเชิง ซึ่งล่าสุดก็มีรายงานว่าแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือต้นน้ำของระบบประปาภูเขาหลายแห่งเริ่มแห้งขอดมากด้วยเช่นกัน
///////////////////



