1

โควิด – 19 รอบสองกระทบหนัก ปางช้างแม่สา “นักท่องเที่ยวหาย” วอนขอความเมตตาจากท่านผู้ใจบุญได้โปรดสนับสนุนและให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้าง “อาหารช้าง – ยารักษาโรค”

โควิด – 19 รอบสองกระทบหนัก ปางช้างแม่สา “นักท่องเที่ยวหาย” วอนขอความเมตตาจากท่านผู้ใจบุญได้โปรดสนับสนุนและให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้าง “อาหารช้าง – ยารักษาโรค” 

ที่ปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สา เปิดเผยว่า “ปางช้างแม่สา” แหล่งช้างเลี้ยงเก่าแก่ที่มีมายาวนานถึง 44 ปี กำลังเผชิญวิกฤตอย่างรุนแรง เนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 รอบสอง ที่ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ จากที่เคยเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ ปางช้างแม่สาได้เปิดขึ้นมาอีกครั้งแบบ “นิวนอมอล” เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563

หลังการปิดชั่วคราวจากการล็อคดาวน์เมืองเชียงใหม่ เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2563 ทำให้ปางช้างต้องปรับตัวใหม่ งดการแสดงช้าง งดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวนั่งบนแหย่งช้าง และหันมาปลดโซ่ช้างในบางเชือกที่สามารถกระทำได้ ที่ผ่านมาปางช้างแม่สาได้เปิดให้บริการประชาชนเข้าชมช้างฟรี มีแค่กิจกรรมหลักในการถ่ายรูปกับช้างและอีกไม่กี่อย่างเพื่อหารายได้เข้ามาเลี้ยงช้าง เช่น การขายตะกร้าอาหารเพื่อป้อนช้างในราคาเพียงตะกร้าละ 100 บาท โดยมีประชาชนเข้าชมช้างฟรี ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 – 30 ธันวาคม 2563 ในปีเดียวกัน รวมจำนวนทั้งสิ้น 76,281 คน ได้สร้างความสุขให้กับครอบครัวชาวไทยหลังเจอพิษโควิด-19 ในครั้งแรกรวมไปถึงพิษเศรษฐกิจ เพื่อความปลอดภัยในขณะนั้นทำให้ทุกคนจำเป็นต้องกักตัวอยู่กับบ้านเป็นเวลานาน

และในปี 2564 นี้ ปางช้างแม่สากำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 45 (ปางช้างแม่สาเปิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน ปี  2519) โดยปัจจุบันมีช้างเลี้ยงจำนวน 73 เชือก ทั้งเพศผู้และเพศเมีย มีอายุตั้งแต่ 3 ปี ไปจนถึง 80 ปี และมีพนักงานที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูช้าง เช่นควาญช้างและนายสัตวแพทย์ ไปจนถึงพนักงานแผนกบริการ ในส่วนของการดูแลให้บริการนักท่องเที่ยวในปางช้าง ซึ่งทั้งสองส่วนนี้มีพนักงานรวมทั้งสิ้น 240 คน ทำให้ปางช้างขนาดใหญ่อย่างปางช้างแม่สา ที่เป็นเจ้าของช้างเอง และพนักงานส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่บ้านแม่แมะ ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องใดๆกับไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรอบนี้ แต่ก็ต้องโดนผลกระทบไปด้วย ภาระหนักของเราคือการนำเข้าหญ้าให้ช้างที่ปางในปริมาณวันละ 10 ตัน (10,000 กิโลกรัม) มีค่าใช้จ่ายประจำวันเฉพาะค่าอาหารช้างอย่างน้อย 20,000 – 30,000 บาท ไม่รวมค่าจ้างแรงงานควาญช้าง ค่าอาหารเสริม ยาบำรุง ยารักษาโรคและอื่นๆ การซื้อหญ้าจะต้องให้ชาวบ้านไปเกี่ยวหญ้าป่ามาส่งให้วันละ 5 – 6 คันรถ จึงจะได้ปริมาณหญ้ารวมน้ำหนัก 10 ตัน และแบ่งหญ้าออกเป็นมัดๆ จำนวน 700 มัด กระจายให้ช้าง จึงจะเพียงพอต่อการเลี้ยงช้างที่กินอาหารวันละประมาณ 10% ของน้ำหนักตัว หรือประมาณ 150 – 200 กิโลกรัมต่อเชือก และยังต้องบริโภคน้ำสะอาดอีกประมาณวันละ 200 ลิตร ทั้งนี้ยังไม่รวมน้ำที่ใช้ชำระล้างร่างกายช้างอีกด้วย

“ปางช้างแม่สา” จึงวอนขอความเมตตาจากท่านผู้ใจบุญได้โปรดสนับสนุนและให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้าง ซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำชาติไทยและร่วมกันรักษาแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมายาวนานอย่างปางช้างแม่สาให้อยู่รอดต่อไป

โดยท่านสามารถโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี  “มูลนิธิอนุรักษ์ช้างไทย” ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขา กาดสวนแก้ว หมายเลขบัญชี 531-0-66551-7 หากต้องการใบเสร็จรับเงินมูลนิธิฯ โปรดติดต่อสำนักงานปางช้างแม่สา 053 206 247-8, 089 838 4242 หรือ ผู้จัดการปางช้างแม่สา 081 882 3738 ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้.  //////////                                            

   นิวัตร  ธาตุอินจันทร์ เขียงใหม่