ซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่แบบบูรณาการในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ในช่วงวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2566

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ที่ถนนหมายเลข 1669 บริเวณกม.ที่ 2-3 ถนนสายน่าน – ท่าวังผา ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองจังหวัดน่าน มีการเปิดการซ้อมแผนอุบัติเหตุบนท้องถนน แบบบูรณาการ ในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ในช่วงวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2566 โดยมี นายรุ่งโรจน์ ขจรพงศ์กีรติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผาสิงห์ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ร่วมกับ โรงพยาบาลน่าน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน โรงพยาบาลค่ายสุริยพงษ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน สำนักงานเทศบาลเมืองน่าน สำนักงานขนส่งจังหวัดน่าน แขวงทางหลวง น่านที่ 1,2 สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดน่าน พร้อมกับเครือข่าย หน่วยกู้ชีพกู้ภัยในเขตอำเภอเมืองน่าน ได้ร่วมกันบูรณาการซ้อมแผนปฏิบัติการรับสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุหมู่ ทางท้องถนน โดยการซ้อมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงวันส่งท้ายปีเก่าพ.ศ. 2565 ต้อนรับปีใหม่ 2566 เนื่องจากในช่วงเทศกาลของทุก ๆ ปี จะมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน และเป็นช่วงที่มีประชาชนใช้รถใช้ถนน เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา เยี่ยมญาติ และเดินทางท่องเที่ยว ส่งผลให้มีปริมาณการใช้รถใช้ถนน บนถนนสายต่าง ๆ มีจำนวนมากขึ้น และการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าช่วงเวลาปกติ จะนำมาซึ่งความสูญเสีย ทั้งชีวิตและร่างกายทั้งยังส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก

โดยได้ซ้อมแผนจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงแบบบูรณาการ เพื่อเตรียมความพร้อมรับสาธารณภัยต่างๆ ตลอดถึงการซักซ้อมความเข้าใจในการใช้แผนอุบัติเหตุหมู่ การช่วยเหลือผู้ประสบ อุบัติเหตุอย่างถูกวิธี ที่จะบรรเทาอาการบาดเจ็บในเบื้องต้นของผู้ประสบเหตุได้ ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ในระดับหนึ่ง ณ จุดเกิดเหตุบริเวณพื้นที่ตำบลผาสิงห์ ถนนน่าน-ท่าวังผา
ขั้นตอนที่ 1 ให้เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินของรถคันที่ประสบเหตุ นำกิ่งไม้มาวาง โบกธง หรือทำสัญลักษณ์อื่นๆ เพื่อเตือนให้รถคันอื่นทราบว่าเกิดอุบัติเหตุ พร้อมโทรแจ้งตำรวจและเรียกรถพยาบาลให้จัดส่งทีมแพทย์ฉุกเฉินที่มีทักษะในการ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ จุดเกิดเหตุอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
ขั้นตอนที่ 2 ประเมินอาการผู้ประสบเหตุว่าได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากน้อยเพียงใด ซึ่งผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือต้องปฐมพยาบาลผู้ประสบเหตุที่หมดสติ โดยเฉพาะผู้ที่หยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้นและเสียเลือดมากเป็นลำดับแรก
ขั้นตอนที่ 3 หลังจากปฐมพยาบาลในเบื้องต้นแล้ว ให้รีบนำผู้ประสบเหตุส่งสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด พร้อมแจ้งรายละเอียด ลักษณะอาการและการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่ทราบ จะได้ทำการรักษาได้อย่างถูกต้องในระยะต่อไป