ศึกวัดพระธาตุแม่เย็นเมืองปายพบปมขัดแย้งยาวจากเรื่องเงิน.

0
(0)
image_print


จากกรณีที่มีกลุ่มผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านได้ร้องกับคณะสงฆ์และหน่วยงานต่างๆ ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระรูปหนึ่งที่วัดพระธาตุแม่เย็น อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จนลุกลามไปถึงประกาศปิดวัดและงดรับบริจาคหลังโดนท้วงติงว่าเป็นวัดร้าง จนนำไปสู่ปัญหาโต้แย้งกัน ล่าสุดทางหน่วยงานต้องลงพื้นที่เพื่อหาข้อยุติกับชาวบ้านเพื่อให้เดินต่อไปได้และไม่กระทบการท่องเที่ยว ขณะที่แม่ของพระที่ถูกกล่าวหาเปิดหน้าสู้พร้อมนำพระกลับมาสึกเองหากผิดจริงแค่ขอให้โปร่งใส เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (วันที่ 6 กรกฎาคม 2565) ที่ศาลาเนอกประสงค์ วัดพระธาตุแม่เย็น ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายทศพล สินยบุตร นายอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฝ่ายปกครอง ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปาย ฝ่ายสงฆ์และชาวบ้านบ้านแม่เย็น หมู่ที่ 1 ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ร่วมกันประชุมหาทางออกจากปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น หลังจากที่ นางสาวจุไรรัตน์ กันทาสุข ผู้ใหญ่บ้านแม่เย็น หมู่ 1 ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พระครูอนุสาร ปุญญาคม เจ้าคณะอำเภอปาย และพระครูอนุสรณ์ จารุวรรณ เจ้าคณะตำบลเวียงเหนือ เจ้าอาวาสวัดแม่ปิง โดยกล่าวหาว่ามีพระรูปหนึ่งของวัดพระธาตุแม่เย็นมีพฤติกรรมผิดพระธรรมวินัย หรือส่อไปในทางเสพเมถุนและพบว่ามีภาพจากวงจรปิดที่ต้องสงสัยว่าจะก่อเหตุลักทรัพย์ขึ้นภายในวัด ระหว่างการประชุมร่วมกันนั้นชาวบ้านได้แยกออกเป็น 2 ฝ่ายและพยายามจะนำเสนอแนวทางหรือเหตุผลต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้นายอำเภอปายต้องคอยควบคุมการประชุม โดยทางฝ่ายชาวบ้านต้องการให้มีการสอบสวนถึงขั้นตอนต่างๆ อย่างโปร่งใส ครบทุกขั้นตอน รวมถึงการพิจารณายกฐานะของวัดจากวัดร้างให้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนทางฝ่ายสงฆ์ก็ได้เห็นชอบที่อยากให้พระวิสาขะหรือตุ๊เอ๊ดได้ออกมาแสดงความจริงให้ปรากฏ ซึ่งทางคณะสงฆ์ของอำเภอปายได้เตรียมออกหนังสือแจ้งเวียนให้กับพระวิสาขะหรือตุ๊เอ๊ดแสดงเจตนาที่จะรักษาพระพุทธศาสนา โดยจะให้เวลาดำเนินการทุกอย่างให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน เนื่องจากแนวทางการสืบข่าวทราบว่าพระวิสาขะยังไม่ได้ลาสิกขาตามที่มีกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้และยังหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่อำเภอปาย ทางชาวบ้านเองได้รับทราบจากมติการดำเนินการแล้วและเห็นชอบในเบื้องต้น จึงได้แยกย้ายกันกลับในเวลาต่อมาพร้อมกับช่วยกันรื้อป้ายที่เป็นปัญหาออกไปจากวัดเรียบร้อยด้วย


นายทศพล สินยบุตร นายอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ที่ต้องมาคุยกับชาวบ้านแม่เย็นหลัก ๆ มี 2 เรื่องคือเรื่องสถานะของวัดและเรื่องจากข่าวกรณีของพระภิกษุรูปหนึ่งที่เป็นปัญหา โดยชาวบ้านเองยังไม่เข้าใจว่าสถานะวัดร้างกับวัดที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่ามันไม่ได้เป็นไปโดยสภาพแต่ต้องเป็นด้วยสถานะของวัด ตอนนี้ชาวบ้านก็เข้าใจแล้ว แต่การพัฒนาสิ่งปลูกสร้างตอนนี้ต้องหยุดดำเนินการไว้ก่อน เกรงว่าจะมีปัญหาตามมาภายหลังที่จะต้องรอการแต่งตั้งให้เป็นวัดเสียก่อน ส่วนเรื่องที่เป็นข่าวนั้นทั้งเจ้าคณะอำเภอหรือญาติของพระภิกษุรูปนี้เข้ามาร่วมประชุมด้วย ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการให้พระลาสิกขาจะได้จบสิ้นกระบวนการของพระไป ส่วนการละเมิดนำเอาภาพหรือคลิปวีดีโอไปเผยแพร่นั้นก็ต้องดำเนินการทางอาญากันต่อไป ด้วยสถานะของวัดวันนี้ทำได้เพียงการดูแลไปก่อน เพราะวัดแห่งนี้เป็นวัดที่ได้รับความนิยมด้านการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวจำนวนมกเดินทางเข้ามาเที่ยวชม ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านแคลงใจต่อการจัดการกับปัญหาด้านการเงินของวัดนั้น วันนี้ยังไม่ได้เข้าจัดการ เพราะคณะกรรมการวัดมีการจัดตั้งกันมานานมาก ต่อไปหากขั้นสถานะเป็นวัดอย่างสมบูรณ์ทางเจ้าอาวาสก็จะเข้ามาดำเนินการเองได้ทั้งหมด มีระบบการเงินที่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ส่วนผลกระทบหลังจากเกิดกระแสข่าวนั้นยังเชื่อมั่นว่าไม่กระทบกับการท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งเพราะเค้าไม่ค่อยทราบเรื่องนี้และยังคงพบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ตามปกติ……
ด้านนางสาวจุไรรัตน์ กันทาสุข ผู้ใหญ่บ้านบ้านแม่เย็นและเป็นผู้เข้ายื่นเรื่องต่อคณะสงฆ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้เข้ามาดำเนินการให้วัดมีสถานะที่ถูกต้องเสียก่อน ตอนนี้ทางคณะกรรมการที่ดูแลบริหารการเงินภายในวัดจากที่ชาวบ้านจัดตั้งกันขึ้นมา ตอนนี้ก็ต้องหยุดการก่อสร้างทุกอย่างไว้ก่อนเพื่อรอสถานะของวัดที่ถูกต้อง ส่วนกรณีที่ต้องดำเนินการกับพระภิกษุตามข่าวนี้ ที่ผ่านมาเมื่อเกิดปัญหาก็ได้ตักเตือนกันไปแล้วด้วยวาจา เพราะเห็นว่าเป็นลูกหลานในหมู่บ้านเดียวกัน ทั้งเรื่องของผู้หญิงที่เข้าไปในวัดยามวิกาล เรื่องการลวนลามที่เคยตักเตือนไป ซึ่งทางเราได้ยื่นเอกสารและหลักฐานต่างๆ ไปให้ทางเจ้าคณะอำเภอ เพราะเราได้ภาพที่ไม่สมควร ภาพที่ไม่เหมาะสมที่ทางโซเชี่ยลได้เผยแพร่ออกมา และส่งมาให้กับทางผู้นำชุมชน ซึ่งก็ได้เข้าสู่การพิจารณาถึงความเหมาะสมหรือไม่ เพื่อให้ทางต้นสังกัดได้ตรวจสอบดังกล่าว รวมถึงกรณีของความเสียหายบนวัดที่เราพบว่ามีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดก็ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการของกฎหมายอาญา เพราะหลักฐานต่างๆ นั้นบางครั้งทางผู้นำหมู่บ้านก็ได้ทีหลังจากที่เผยแพร่ออกไปแล้ว ส่วนกล้องวงจรปิดนั้นเราได้มาตั้งแต่กรณีไฟไหม้วิหารหลังเก่าก็พบว่าสาเหตุมากอะไรก็มักจะพบภาพเหล่านี้ ส่วนภาพปัจจุบันก็ได้มาจากวิหารหลังใหม่ที่ไฟไม่ไหม้ก็มาจากกรณีที่ทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวหายไปเราก็ต้องนำเอาภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบซึ่งเราก็พบหลักฐานว่าทุกครั้งมักจะเกิดจากอะไรทุกๆ ครั้งก็จะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนกรณีของคณะกรรมการวัดชุดปัจจุบันนี้ก็ต้องลาออกไปโดยปริยาย เพราะต้องรอการดำเนินการสถานะของวัดให้แล้วเสร็จเสียก่อน จะเหลือไว้เพียงคณะกรรมการบางคนที่ต้องดูแลการเงิน ปัจจุบันเงินของวัดทั้งหมดจะอยู่ธนาคาร ธกส.และล่าสุดเงินวัดที่ได้มาราว 1.8 ล้านบาทนั้น เราได้สั่งจ่ายค่าไม้ตามแบบของการก่อสร้างวิหารใหม่ ซึ่งไม้ก็ต้องสั่งจากโรงงาน กระเบื้องก็สั่งจากบริษัท ตอนนี้เงินก็หมดไปแล้ว ก็จะเหลือเพียงบางส่วนที่เหลือไว้ใช้จ่าย ที่จะมีบิลหรืองบดุลในการใช้เงิน เงินที่ได้จากการทำบุญที่มีผู้มีจิตศรัทธาโอนเข้าบัญชี หากใช้จ่ายอะไรไปก็จะมีสรุปทุกเดือน…………
ในขณะเดียวกัน นางบัวผัด ใจหมู มารดาของพระวิสาขะหรือตุ๊เอ๊ด ยอมเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาทางกลุ่มผู้นำหมู่บ้านมักจะคอยเล่นงานพระอยู่เสมอ ขึ้นโรงขึ้นศาล แม้จะขอว่าเจรจากันก่อนหรือประนีประนอมกันก็ไม่ยอมรับฟัง คอยกลั่นแกล้งพระมาตลอด เมื่อเกิดเรื่องขึ้นครั้งนี้ตัวแม่เองก็แทบอยู่ไม่ได้ ไม่สบายใจ ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก เพราะเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันเคยเกิดขึ้นมาแล้วราว 6 ปีที่แล้ว (คศ.2017) แต่พอมาถึงปีนี้ ทำไมเรื่องเพิ่งจะมาแดงขึ้นเวลานี้ ช่วงที่ประจวบเหมาะกับที่ทางสำนักพุทธจะมาตรวจสอบการเงินหรือเรื่องต่างๆ ของวัด ที่ผ่านมาพระไม่เคยมีสิทธิ์ดำเนินการอะไรในวัดได้เลย ซึ่งจากการเข้าฟังในที่ประชุมวันนี้ทำไมมันตรงกันข้ามไปหมด ไม่มีความเป็นธรรมให้กับตนเองเลย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากที่กระแสข่าวสะพัดออกไปว่าพระลูกแม่ทำอย่างโน้นนี่นั่น ทางบ้านก็โดนกระหน่ำอย่างหนัก แทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ ซึ่งไม่น่าจะทำกันขนาดนี้ น่าจะตรวจสอบกันก่อน หากผิดก็คือผิด แต่กลับไม่ยอมฟังอะไรเลย เข้าใจว่าตนเองนั้นใหญ่โตมากซึ่งก็เป็นแบบนี้มานาน เชื่อว่าน่าจะมาจากเรื่องของผลประโยชน์ แต่พระเองก็ไม่ได้เข้าไปขัดขวางอะไรเค้าเลย มีแต่แม่นี่แหละที่หากพบความไม่ชอบมาพากลก็จะพูดตรงๆ เพราะถือว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน อีกอย่างวัดที่นี่ก็ถือว่ามีเรื่องของการเงินเข้ามาเพราะเป็นวัดที่อยู่ในการท่องเที่ยว โดยเฉพาะวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมาที่ทางวัดได้รับกองผ้าป่ามา 1.8 ล้านบาท ช่วงนี้กระแสข่าวมาแรงมาก ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ร้องไห้…..ซึ่งข่าวที่เป็นภาพที่ไม่สมควรหลุดออกมานั้นแม่เองก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าหากมันเป็นเรื่องจริง ไม่มีการตัดต่อใดๆ ก็จะให้พระสึกจากการเป็นพระและให้เรื่องต่างๆ มันจบไป ในทางกลับกันหากสอบสวนแล้วพระไม่ผิดจะทำอย่างไร เฉพาะตัวแม่เองก็ไม่มีความรู้ในเรื่องแบบนี้ แม้กระทั่งเรื่องของกล้องวงจรปิดก็ดูแล้วต้องการจะจับผิดแต่พระเพียงรูปเดียว แม่ก็เคยขอแล้วว่าทำไมวงจรปิดไม่ให้ทางวัดได้ทราบบ้าง แต่กลับมีอยู่แต่ในมือของกรรมการวัด อยากจะถามว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ ดูได้จากผ้าป่าล้านกว่าบาทพระเองก็ไม่ได้จับเงินสักบาท แถมยังทำเหมือนไม่เห็นหัวพระเอ๊ดด้วยซ้ำ เค้ามาถวายผ้าป่าก็จะมีกรรมการเอาไปเก็บหมด หากไม่เอาข่าวแบบนี้ออกมาโจมตีกันแม่ก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องเงินของทางวัดหรอก…ตอนนี้ยังไม่ชี้ชัดว่าผิดหรือถูกจากคณะสงฆ์เลยก็ทำกันแบบนี้แล้ว จากนี้ก็คิดว่าวันเสาร์ที่จะถึงนี้ก็อยากให้พระลาสิกขาออกมาเสียจะได้จบเรื่องกัน ทางคณะสงฆ์และผู้หลักผู้ใหญ่จะได้ไม่ต้องเสียหายไปด้วย ถ้าผิดก็สึกหรือถ้าไม่ผิดก็จะอยู่ที่ไหนวัดไหนก็ได้ ไม่ต้องกลับเข้ามาที่วัดนี้อีกแล้ว เพราะต่างคนต่างก็อึดอัดกันมากอยู่แล้ว.
/////////////////////////////////////////////////


ภาพ/ข่าว วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน

ให้คะแนนบทความนี้

กรุณาเลือกจำนวนดาว

คะแนนค่าเฉลี่ย 0 / 5. จำนวนผู้ให้คะแนนโวต 0

ยังไม่มีผู้ให้คะแนนบทความนี้

Sending
User Review
0 (0 votes)

Leave a Reply

Translate »