1

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2564 ปล่อยโคมไม่ได้ “รองศรัณยู” แจงแนวปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ฉบับล่าสุด มีผลบังคับแล้วตั้งแต่ 26 ธ.ค. ที่ผ่านมา ประกาศแก้ไขเฉพาะปล่อยโคม เขต “ท๊อฟฟี่โซน” อนุญาตให้ปล่อยไม่ได้ ส่วนพลุ ดอกไม้ไฟ จะขอจุดยังคงพิจารณาอย่างเข้มงวด

จากการที่จังหวัดเชียงใหม่มีประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง มาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวประกาศฉบับนี้ว่า ประกาศฉบับนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้รับความเห็นชอบจากสภาวัฒนธรรมและคณะกรมการจังหวัดในเรื่องของการปรับปรุงแก้ไขประกาศจังหวัดฯ ฉบับลงวันที่ 7 ต.ค. 2559 โดยให้มีการยกเลิกข้อ 3.3 ในเรื่องวันอนุญาตให้ปล่อยโคมลอย โคมควัน โคมไฟ จากเดิมอนุญาตให้ปล่อยได้ 3 วัน คือวันกระทงเล็ก กระทงใหญ่ และวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทั้งสภาวัฒนธรรมและกรมการจังหวัดมีความเห็นให้ลดวันปล่อยโคมก็เห็นสมควรตัดเลือกแค่ให้อนุญาตปล่อยได้ในวันกระทงเล็ก และวันกระทงใหญ่ เท่านั้น จึงส่งผลให้วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2564 ที่จะถึงนี้ไม่สามารถปล่อยโคมได้ เพราะว่าประกาศจังหวัดฯ ฉบับนี้ลงประกาศในราชกิจานุเบกษาในวันที่ 25 ธ.ค. 63 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 63

“ในการอนุญาตให้ปล่อยโคมลอย โคมควัน โคมไฟ ตามประกาศจังหวัดฉบับดังกล่าวนี้ มีหลักเกณฑ์สำคัญคือ ไม่อนุญาตให้ปล่อยในพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตปลอดภัยการบิน หรือที่เรียนกันว่า ท๊อฟฟี่โซน เพราะเป็นเขตทางขึ้นลงอากาศยาน หรือเส้นทางการบิน คือด้านเหนือด้านใต้ในระยะ 18.5 กิโลเมตร ด้านข้างอีก 4.5 กิโลเมตร ของสนามบิน ซึ่งกินพื้นที่ในหลายอำเภอ ได้แก่ อ.เมืองเชียงใหม่ หางดง แม่ริม สันทราย และ อ.สารภี เป็นต้น เป็นเขตควบคุมเด็ดขาดที่ไม่สามารถอนุญาตให้ปล่อยโคมได้” รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว

นายศรัณยูฯ กล่าวอีกว่า โซนที่ 2 ที่ขยายออกไป นอกเหนือจากเขตปลอดภัยการบิน ก็จะอยู่ในดุลยพินิจของนายอำเภอท้องที่ในการพิจารณา โดยนายอำเภอก็จะประสานกับการท่าอากาศยานเชียงใหม่ และศูนย์ควบคุมการบินว่า การปล่อย ณ จุดที่ขออนุญาตซึ่งอยู่นอกเหนือเขตท๊อฟฟี่โซนมีความเหมาะสมหรือไม่ ตรงนี้ทางอำเภอต้องประสานกับทั้ง 2 หน่วยงานล่วงหน้า 14 วัน

รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ในการดำเนินการจะขออนุญาตปล่อย ในพื้นที่ที่ห้ามปล่อยเด็ดขาดนายอำเภอก็ไม่สามารถอนุญาตปล่อยได้ ส่วนพื้นที่อื่นๆ จะปล่อยได้ก็ต้องให้ นายอำเภอเป็นผู้อนุญาต โดยนายอำเภอต้องไปกำหนดพื้นที่ กับสถานที่ในการอนุญาตให้ปล่อย แล้วรายงานให้กับทางจังหวัดได้ทราบต่อไป ทั้งนี้ยังมีบทกำหนดโทษ ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนมีทั้งโทษจำและโทษปรับ ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษเดิมที่กำหนดไว้

“สำหรับพลุ ดอกไม้เพลิง ในประกาศฉบับใหม่นั้นไม่ได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ก็สามารถที่จะจุดได้ การดำเนินการก็ต้องขออนุญาตเช่นกัน โดยนายอำเภอจะเป็นผู้พิจารณาอนุญาต นายอำเภอจะเป็นผู้กำหนดพื้นที่ให้จุด หากว่ามีการขออนุญาตในเขตท๊อฟฟี่โซนก็จะมีการพิจารณาอย่างเข้มงวดในการจะอนุญาต” นายศรัณยู มีทองคำ รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวในที่สุด