กองทัพภาคที่ 3 จัดกิจกรรม รณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พื้นที่ภาคเหนือ” ประจำปี 2565 พร้อมมอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อม ป้องกัน แก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละออง ตามนโยบายของรัฐบาล
วันที่ 17 ม.ค. 65 เวลา 13.30 ที่ ลานพื้นแข็ง หน้า บก.พล.ร.7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พลโทอภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานเปิดกิจกรรม รณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พื้นที่ภาคเหนือ” ประจำปี 2565 โดยมีนายประจญ ปรัญช์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ,นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อบูรณาการกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ร่วมกับส่วนราชการที่ เกี่ยวข้อง ในการเตรียมความพร้อม ป้องกัน แก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละออง ตามนโยบายของ รัฐบาล
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า สภาพภูมิอากาศมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เป็นปัจจัยทำให้เกิดปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นทุกภาคส่วน ต้องร่วมมือร่วมใจ โดยการจัดการเชื้อเพลิงและลดความร้อน พร้อมจัดทำแผนปฏิบัติการในทุกระดับ ที่เน้นการป้องกันแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ลดการเผาในทุกพื้นที่ โดยใช้แนวทางการบริหารจัดการ อันประกอบด้วย ระบบบัญชาการเหตุการณ์ ,การกระจายข่าวสารพร้อมความรู้ การจัดการเชื้อเพลิง และ การมีส่วนร่วมของประชาชน
โดยเป้าหมายในการแก้ไขปัญหา ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองในปี 2565 จะพิจารณาจากสถิติจุดความร้อน และพื้นที่เผาไหม้ของปีที่ผ่านมา เพื่อกำหนดเป้าหมายสำคัญ 6 ดอย 19 รอยต่อ 8 พื้นที่เสี่ยง ซึ่งขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกหน่วย งานโดยมีประชาชนเป็นกำลังหลักในการแก้ไขปัญหา ทำให้ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองของ 17 จังหวัดภาคเหนือ ลดลง ร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบจุดความร้อนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ปี 64 และ ปี 65 พบว่า ในปี 64 เกิดจุดความร้อนสะสม จำนวน 61,776 จุด ส่วนในปี 65 เกิดจุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. จนถึงปัจจุบัน กว่า 4,000 จุด โดยส่วนมากพบจุดความร้อนในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงราย และพิจิตร เมื่อเทียบกับปี 64 ในเวลาเดียวกันลดลง กว่า 2,000 จุด คิดเป็นร้อยละ 30 ดีกว่าที่กำหนดไว้
ขณะเดียวกัน แม่ทัพภาคที่ 3 ได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ ประจำปีงบประมาณ 2565 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือผ่านระบบ VTC ที่ ห้องประชุมระวังเมือง 1 กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 โดยขอให้ทุกจังหวัดยึดนโยบายรัฐบาล ที่จะลดปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง กว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 20 พร้อมให้จังหวัดบริหารงาน แบบ Single Command โดยจัดตั้ง ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ บูรณาการหน่วยงานแก้ไขปัญหาร่วมกัน ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด นอกจากนี้ยังให้ทุกหน่วยงานใช้ตัวชี้วัดร่วมกัน จาก สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) โดยเฉพาะ จุดความร้อน พื้นที่เผาไหม้ และค่าคุณภาพอากาศ เพื่อเป็นฐานข้อมูลหลัก ในการกำหนดแผนงานในแต่ละพื้นที่ ที่สำคัญให้ทุกจังหวัดนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย ถูกต้องและเชื่อถือได้ มาช่วยในการตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศ จุดความร้อน รวมถึงข้อมูลที่สำคัญอื่นๆ เพื่อประกอบการบริหารจัดการในการแก้ไขปัญหา ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามาแก้ไขปัญหาในถิ่นที่อยู่อาศัยของตนเอง ขณะเดียวกันการประกาศห้ามเผาของแต่ละจังหวัด อย่างน้อยให้ครอบคลุมห้วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม 2565
ทั้งนี้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน โดยตระหนักถึงผลกระทบในด้านต่างๆ และช่วยกันแก้ไขปัญหา หากเกินกำลัง กองทัพภาคที่ 3 มีความพร้อมในการสนับสนุนกำลังพล และยุทโธปกรณ์ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาในทุกพื้นที่ ตามที่ได้รับการประสานอย่างเต็มขีดความสามารถ