1

ชาวบ้านคลองเจ็ดร้องคัดค้านการวางแทนแบริเออร์เกาะกลางถนนธัญบุรี-วังน้อย

วันที่ 25 ธันวาคม 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองเจ็ด(อบต.) ตำบลคลองเจ็ด อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ชาวบ้านตำบลคลองเจ็ดประมาณ 20 คนได้ร่วมตัวยื่นหนังสือร้องดัดค้านโครงการจัดทำวางแท่นแบริเออร์บนเกาะกลางในถนนธัญบุรี – วังน้อย หมู่ที่ 2 – 5 ตำบลคลองเจ็ด อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
เนื่องจากได้รับผลกระทบของวิถีชีวิตความเป็นอยู่และการเดินทางที่ยากลำบาก โดยมีนายพิษณุ พลธี ส.ส.ปทุมธานี เขต 6 พรรคภูมิใจไทย และ นายเสถียร ศรีสุข นายก อบต.คลองเจ็ด ได้ออกมารับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่เดือดร้อนในครั้งนี้

นายกรธัช ธนูศิลป์ อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ที่ 2 ตำบลคลองเจ็ด ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้านได้กล่าวว่าชาวบ้านตลอดจนเกษตรกรได้ประสบปัญหาความเดือนร้อนในเรื่องของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การเดินทาง การใช้รถใช้ถนน การทำมาหากินในด้านการ
เกษตรกรการทำนาของชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากทางกรมทางหลวงได้อนุมัติจัดทำโครงการขยายเขตถนนในพื้นที่ของตำบลคลองเจ็ด อำเภอคลองหลวง จัหวัดปทุมธนี ได้ทำการเวนคืนที่ดินของเกษตรกรเพื่อจัดทำถนนแปดเลนผ่ากลางที่ดินทำกินของ
ชาวบ้น ซึ่งทำให้ที่ดินของชาวบ้านถูกแบ่งออกเป็นสองโฉนดเป็น 2 แปลง โดยต่อมากรมทางหลวงได้สร้างถนน
2 เลนคู่ขนานที่เรียกว่า ถนนธัญบุรี – วังน้อย พื่ออำนวยความสะดวกแก่รถที่ใช้สัญจรไปมาบนเส้นทางนี้โดยได้จัดทำถนนเสร็จเรียบร้อยและใช้ถนนเส้นนี้มาเป็นเวล 10 กว่าปีแล้ว

ซึ่งชาบ้านในพื้นที่เขตนี้ก็ยังมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเรียบง่าย โดยยังคงยึดหลักความป็นอยู่อย่างพอเพียงตามคำสอนของพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 เป็นสำคัญมาโดยตลอดจนถึงปัจุบันี้ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ 80% ยังคงยืดอาชีพหลักกษตรกร คือการทำนาในพื้นที่เกือบทั้งหมดเพระที่ดินส่วนใหญ่เป็นที่ดินของ สำนังนปฏิรูที่ดิ สปก.เพื่อเกษตรกรจังหวัดปทุมธานีที่จัดสรรแบ่งให้ประชาชน
ชาวบ้านได้ทำมาหากินในรูปแบบกษตรกรเบ็นหลักพราะว่าระเบียบ กฎหมายของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรนั้นให้ผู้ที่ครอครองที่ดินของปฏิรูปจะต้องทำการเกษตรกรเท่านั้น จึงเป็นบทสรุปได้วัวพื้นที่ส่วน
ใหญ่ของชาวบ้านจะต้องยือชีพกรทำมาหกินดันแกษตรเป็นหลัก

ซึ่งที่ดินของชาวบ้านที่ยึดอชีพเกษตรกรทำนา 2 ฝั่งถนน เป็นหลัก โคยต้องใช้รถไถนาในการข้ามฝั่งถนนเส้นนี้มาโดยตลอด แต่กรมทางหลวงได้มีโครงการวางแท่นแบริเออร์ขึ้นมาแล้วจะส่งผลทำให้ต้องลำบากในการขับรถไถนาการเกษตรซึ่งป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการขับไถพรวนดินในพื้นที่นเท่นั้นจึงไม่ได้ออกแบบมาเพื่อขับบนถนนหลักโดยหากต้องขับรถไถนาพื่อข้ามฝั่งถนนไปทำนาอีกฝั่งโดยจะต้องขับบนถนนเป็นระยะทางไป – กลับ ประมาณ
2 – 4 กิโลเมตร เพระป็นรถที่จำกัดความเร็วเป็นล้อหล็กไม่ใช่ล้อยางไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะขับบนถนนในระยะทางไกลเพื่อไปกลับรถอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนได้โดยง่าย
เนื่องจากพื้นที่เส้นทางถนนในหมู่ที่ 2 – หมู่ที่ 5 ส่วนใหญ่ยังไม่มีไฟฟ้าเกาะกลางถนนหรือไฟข้างถนนเพื่อ
ความสว่างในการมองเส้นทางแก่ผู้ที่ใช้รถยนต์สัญจรไปมาโดยหากเกิดมีกรวางแท่นแบริเออร์บนเกาะกลางถนนแล้วผลเสียจะทำให้กิดอุบัติหตุแก่ผู้ขับรถบนส้นทางนี้

ทั้งนี้ชาวบ้านได้ร่วมกันลงรายชื่อเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านโครงการดังกล่าวแก่ ส.ส.ปทุมธานี เขต 6 นายก อบต.คลองเจ็ด และ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอคลองหลวง เพื่อร้องคัดค้านโครงการวางแท่นแบริเออร์บนถนนเส้นนี้และขอให้พิจารณานำงบประมาณของการวางแท่นแบริเออร์ เปลี่ยนไปใช้ทำอย่างอื่นที่
สำคัญกว่าและไม่ทำให้เดือนร้อนกับคนในพื้นที่ที่ทำการเกษตรมากนานหลายสิบปี

ด้าน นายพิษณุ พลธี ส.ส.ปทุมธานี เขต 6 พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าได้รับเรื่องร้องเรียนของชาวบ้านหมู่ที่ 2-5 ตำบลคลองเจ็ด แล้วซึ่งตอนนี้ตนเองจะเร่งดำเนินการประสานกับทางกรมทางหลวง โดยมีตัวแทนของชาวบ้านจะเข้าหารือเพื่อหาทางออกให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนในครั้งนี้อย่างไร ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการประสานงานในครั้งนี้อย่างเร็วที่สุดเพื่อชาวบ้านจะได้เกิดความสบายใจต่อไป

กำพล วงศ์สุทธา