มีคนถามว่า ทุ่มเงินเป็นล้าน เงินเดือนไม่กี่หมื่น 4 ปี จะได้คืนไหม
ทุ่มเป็นล้าน ขอเป็น นายก อบต.
บทพิสูจน์ อย่างหนึ่ง ของ คนไทย ในเรื่องของการเลือกตั้ง นั่นคือ เงิน ยังเป็นบันใดก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง แม้บางคน ไม่เคยมีผลงาน ไม่เคยพบปะชาวบ้าน ไม่ร่วมงานชุมชน คือไม่อะไรสักอย่าง แต่พอหน้าเลือกตั้ง เข้ามายกมือไหว้ใช้เงินฟาดหัว ชาวบ้านก็เฮโล ไปกากะบาดให้
นี่คือความจริง ที่เกิดขึ้น การเลือกตั้ง อบต.ที่ผ่านไป หลายแห่ง คนรู้ว่าเขาซื้อเสียง แต่ก็ไม่มีใครกล้า พอเลือกตั้งเสร็จ เขาก้ได้เป็นนายกสมใจ คือต่อไป ไม่ต้องหาเสียง เอาเงินไปหว่านก็จบ เพราะอะไร เพราะชาวบ้านเอง ก็ชอบ ที่ได้เงิน ใครจะเอาเงินมาให้ ชอบใจหมดแหละ
มีคนถามว่า ทุ่มเงินเป็นล้าน เงินเดือนไม่กี่หมื่น 4 ปี จะได้คืนไหม
จะบอกให้ คนพวกนี้ ถ้าไม่เข้าไปโกงกิน มันก็ไม่คุ้มหรอก แค่เดือนเดือนก็หมดไปกับภาษีสังคมแล้ว หรืออาจจะไม่พอด้วยซ้ำ
ถ้าไม่มีผลประโยชน์ ข้างหน้า มีหรือใครจะเอาเงินมาแจก นายก บางคนเป็นผู้รับเหมาเสียเอง เมื่อทำไม่ได้ก็ตั้งนอมินีเข้ามารับเหมา อบต.มีงบประมาณสนับสนุนปีละเท่าไหร่ สังเกตได้ว่า ทุกที่ทุกแห่งจะไปลงถนนหนทาง ขุดรอกหนองครองบึง ที่ผ่านมา นายกเอางบไปราดยางทำถนนเข้าบ้านเมียน้อย ชาวบ้านรู้ แต่บอกว่าไม่อยากยุ่ง
งบประมาณการก่อสร้างต่างๆทุกโครงการ นายก อบต. จะต้องได้รับเปอร์เซ็นต์จากผู้รับเหมา ธรรมเนียมเขามีไว้แบบนี้ ผู้รับเหมาได้งาน สามล้าน สิ่งแรกคือหักเปอร์เซ็นต์ไว้ให้นายก เท่าไหร่ก้แล้วแต่ตกลง อยู่เฉยๆเขาก็จัดให้ นอกจากนั้นก็ รองนายก เลขา รวมไปถึง ปลัด ข้าราชการบางคนที่เกี่ยวข้อง ได้รับกันถ้วนหน้า นี่แล้วคนที่ถามว่า ทุ่มเป็นล้าน จะได้คือคืนยังไง แค่ปีเดียวเขาก็ได้คืนหมดแล้ว
ผมเคยได้สัมผัส มาด้วยตนเอง นายก อบจ. พอได้เข้าไปนั่งเก้าอี้ได้ไม่ถึงเดือน มีหน่วยงานหนึ่ง เอาเงินใส่วองไปให้ จำนวน ห้าหมื่น ท่านนายกเปิดดุ แล้วถามผมว่า เขาเอามาให้ค่าอะไร แล้วนายกก็เอาไปถวายวัดจนหมด ผมมาทราบทีหลังว่า หน่วยงานที่เอาเงินใส่ซองมาเป็นหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณจาก อบจ นั่นแสดงว่าเงินทอนมีจริง แต่ไปเจอกับนายกที่ไม่สนไม่โกงไม่กิน แล้วใครก็ไม่กล้าเอามาให้อีก
แต่การลงสมัครนายก อบต. ผู้สมัครที่ทุ่มเงินลงไปเป็นล้าน มันรู้แนวทางอยู่แล้วว่า ข้างหน้ามีอะไรรออยู่ ผมถึงว่า ขอให้ประชาชนตรวจสอบให้เข้มข้น พบเจอสิ่งที่น่าสงสัยถ่ายรูปแล้วค้นหาที่มาโครงการ งบประมาณ ใช้เงินเท่าไหร่ ส่งมาให้ผม ได้ และต่อไปนี้ สื่อมวลชนก็คงจะตรวจสอบเข้ม อย่าให้คนเขาดูถูกนะครับ ว่า สื่อไม่เกี่ยวแค่ให้กล้วยก็เงียบแล้ว คำนี้ใครยอมรับก็ตามใจ แต่สำหรับที่ ไม่ว่าจะกล้วยหอมกล้วยน้ำว้าก็อย่ามายื่นให้ การเป็นสื่อ การเป็นนักข่าว ตัวจริง แต่ไม่กล้าที่จะตีแผ่ความเลว ของคนโกงได้ ก็อย่าเป็นเลยนักข่าว
พิจิตร สมศักดิ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนอิสระภาคเหนือ
คอยติดตามได้ที่นี้