ปราจีนบุรี ตามจับจากกล้องวงจรปิด คนร้ายฉกเงินในเซฟ
ตำรวจชุดสืบสวน ตามจับอดีตลูกจ้างแสบย้อนรอยย่องเบางัดตู้เซฟกวาดเงินสดไปเกือบแสน หลังโดนรวบอ้างกับตำรวจว่าเพื่อหาเงินไปรักษาพ่อที่ป่วย แต่บอกกับผู้สื่อข่าวว่า กรุเรื่องดรามาแต่พร้อมเข้าไปอยู่ในคุกเพื่อความสลบายใจ
ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ โดยการสั่งการของ พ.ต.อ.วิวัฒน์ พิสิษศักดิ์ ผกก.ศรีมหาโพธิ ให้เร่งสืบสวนสอบสวนดำเนินการติดตามคนร้ายเป็นชายเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินเป็นเงินสดเกือบ 80.000 บาท ในสำนักงาน ปั๊มน้ำมัน Ip7 หมู่ ที่ 7 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 7 พ.ย. 2564 โดยมีนายสมทรง สีหนองดุม อายุ57ปี นำคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.พงศ์พล การงาน ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ
หลังรับแจ้ง จึงประสานชุดสืบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายรายนี้ เป็นชายอายุประมาณ 35 ถึง 40 ปี รูปร่างสันทัดสูงไม่เกิด 165 ซ.ม. โดยที่นายสมทรง ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า คนร้ายรายนี้น่าจะเป็นอดีตลูกจ้างที่ถูกให้ออกจากงานไปเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ประกอบกับรูปพรรณสันฐานคนร้ายในกล้องวงจรปิดใกล้เคียงกับข้อมูลที่ได้ จึงติดตามตัวนายมานัส อายุ 40 ปี อดีตลูกจ้างมาทำการสอบสวน โดยต่อมานายมานัส ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่เข้าไปใช้ท่อนเหล็กเข้าไปงัดตู้แล้วใช้ตะขอเกี่ยวเงินออกมาหลังจากเข้าไปด้านในก่อนลักเงินสดที่อยู่ในเซฟเกือบ 80.000 บาทหลบหนีไป จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวมาได้
จากการพูดคุยกับนายมานัส ( ขอสงวนนามสกุล ) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นลูกผู้ชายทำแล้วยอมรับว่าเป็นคนเข้าไปเอาเงินจริง แต่ที่บอกว่าเพื่อต้องการเอาเงินไปรักษาพ่อนั้น เป็นเรื่องดรามาพ่อไม่ได้ป่วย แต่ตนทำไปเพราะอยากทำเงินที่ได้ไปก็ไม่ได้ใช้แม้แต่บาทเดียว รู้สึกว่าทำไปแล้วไม่สบายใจเพราะไม่เคยทำแบบนี้ ไม่กลัว ที่จะต้องไปอยู่ในคุกหรือติดคุกเพราะตนคิดว่าอยู่ในคุกน่าจะสบายใจกว่า ซึ่งในขณะที่เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังนายมานัส มี่น้ำตาคลอเบ้า เหมือนอยากจะพูดแต่ไม่กล้าพูด ได้แต่บอกแต่ว่าพร้อมที่จะเข้าไปอยู่ในคุก
ทางด้านนาย สมทรง สีหนองดุม เปิดเผยว่า ไม่คิดว่านายมานัส ซึ่งเป็นอดีตลูกจ้างที่โดนให้ออกจากงานจะกลับมาขโมยเงิน แต่จากการดูภาพกล้องวงจรปิดแล้วมีความสงสัย จนกระทั่งวันนี้ ตำรวจติดตามจับกุมตัวนายมานัส มาได้จึงมาดูตัวก็เป็นนายมานัสจริงๆ
ขณะที่ พ.ต.อ.วิวัฒน์ พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ เปิดเผยด้วยว่า หลังทราบเรื่องคนร้ายเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินเป็นเงินสดในปั๊มน้ำมันเกือบ 80.000 บาท ได้ สั่งชุดสืบลงพื้นที่ตรวจสอบตามกล้องวงจรปิดทุกตัวเพื่อตรวจสอบหาหลักฐานนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบดูตามกล้องวงจรปิดแล้วก็ได้ทราบลักษณะ รูปพรรณ สันฐานของคนร้าย ทางตำรวจจึงได้ระดมพลเจ้าหน้าที่ออกตามตัวผู้ก่อเหตุ และสามารถจับตัวมาได้และให้การรับสารภาพว่าตนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยใช้ไม้ต่อทำเป็นตะขอเข้าไปงัดเงินในตู้ อ้างที่ลงมือก่อเหตุลงไปนั้นตนต้องการเงินไปรักษาพ่อที่ป่วยอยู่เป็นโรคหัวใจเท็จจริงประการใดก็จะต้องดำเนินการสอบสวนต่อไป โดยในเบื้องต้นนั้น ได้ตั้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนจึงอยากจะฝากเตือนประชาบนเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินควรเก็บให้มิดชิด และรีบแจ้งตำรวจทันทีหากมีอะไรเกิดขึ้น