1

ตำรวจภูธรภาค 5 ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ ห้วง 20 – 31 ตุลาคม 2564 ได้ยาบ้าประมาณ 20 ล้านเม็ด, ไอซ์ 631 กก. ,เฮโรอีนส่วนหนึ่ง พร้อมอาวุธปืนอีก 500 กว่ากระบอก

ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ,พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ ประชาชน และเป็นภัยกับสังคม ไม่ว่าจะเป็นคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน ยาเสพติด ,ชีวิต ร่างกายและเพศ และเกี่ยวกับทรัพย์ หรือกระทั่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เช่น การหลอกลวงประชาชนโดยใช้ Social Media โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 นั้น

เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) ,พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(ปป) , พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.(มค) จึงได้สั่งการให้ทุก บช. มีการะดมกวาดล้างอาชญากรรมตามเป้าหมายต่างๆ ในห้วงวันที่ 20 -31 ตุลาคม 2564

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.30 น. ณ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5
ตำรวจภูธรภาค 5 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี ,พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ประยูรศิริ, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และ ผบก.ทุก ภ.จว. ในสังกัด ภ.5 ได้ดำเนินการสนองตอบนโยบายรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติดังกล่าว โดยบูรณาการกำลังร่วมกันกับฝ่ายปกครอง หน่วยทหารกองทัพภาคที่ 3 และป.ป.ส.ภาค 5 โดยขอแถลงสรุปผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรมตามเป้าหมายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด ในห้วงวันที่ 20 -31 ตุลาคม 2564 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ดังนี้

  1. ความผิดเกี่ยวกับการพนัน 1,017 ราย ผู้ต้องหา 1,136 คน
  2. ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 3,567 ราย ผู้ต้องหา 2,681 คน
  3. ความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง 770 ราย ผู้ต้องหา 772 คน
  4. ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน 1,240 ราย ผู้ต้องหา 796 คน
  5. ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ 90 ราย ผู้ต้องหา 89 คน
  6. จับกุมบุคคลตามหมายจับ 2,081 ราย ผู้ต้องหา 2,057 คน
  7. อาชญากรรมทางเทคโนโลยี 288 ราย ผู้ต้องหา 75 คน
    รวมทั้งสิ้น 9,053 ราย ผู้ต้องหา 7,606 คน

โดยเฉพาะผลการปฏิบัติที่สำคัญ มีการจับกุมเกี่ยวกับยาเสพติดรายใหญ่ที่ผ่านมา ได้แก่ที่
1.สภ.ฝาง จว.เชียงใหม่ ยาบ้า 100,000 เม็ด (20 ต.ค.64)
2.สภ.แม่สรวย จว.เชียงราย ยาบ้า 310,000 เม็ด ไอซ์ 58 กก. เฮโรอีน 7 กก. (20 ต.ค.64)
3.สภ.เมืองเชียงราย ,แม่สรวย ยาบ้า 1,696,000 เม็ด ไอซ์ 9 กก. (20 ต.ค.64)
4.กก.สส.ภ.5 ร่วมกับ ป.ป.ส. 4,400,000 เม็ด ไอซ์ 288 กก. (20 ต.ค.64) ต้นทางจาก อ.ภูซาง อ.เชียงคำ จว.พะเยา จับกุมได้ที่ จ.อยุธยา
5.สภ.ห้วยไร่ จว.แพร่ ยาบ้า 5,000,000 เม็ด (23 ต.ค.64)
6.สภ.แม่ลาว จว.เชียงราย ยาไอซ์ 235 กก. (29 ต.ค.64)

ซึ่งในวันนี้ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้นำมาร่วมแถลงข่าว จำนวน 3 คดี คือ
คดีที่ 1 : ตรวจยึดยาบ้า 7,970,000 เม็ด
วันเดือนปีที่ตรวจยึด : วันที่ 30 ตุลาคม 2564
สถานที่ตรวจยึด : จุดตรวจแพร่ธรรมาราม อ.เด่นชัย จว.แพร่
ของกลาง : ตรวจยึดยาเสพติดประเภทยาบ้า 7,970,000 เม็ด และ รถยนต์ขนส่ง 6 ล้อ จำนวน 1 คัน
ข้อกล่าวหา : มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย
พฤติการณ์แห่งคดี: ด้วยเมื่อ วันที่ 30 ต.ค.2564 เวลา 10.00 น. ผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุก หมายเลขทะเบียน 72-4852 นครปฐม ได้รับการติดต่อจากเพื่อนกลุ่มขับรถรับจ้างให้ไปรับงานที่ห้องพัก ต.ร่องฟอง อ.เมืองแพร่ จว.แพร่ เพื่อนำส่งปลายทางที่เขตมีนบุรีกรุงเทพฯ ซึ่งผู้ติดต่อแจ้งว่าเป็นสุ่มไก่ เมื่อถึงจุดขึ้นของมีผู้ชาย 2 คน ยกของขึ้นรถบรรทุก เป็นลังไม้และสุ่มไก่ ผู้ขับขี่ฯ จะช่วยยกของขึ้นรถ ชายทั้งสอง บอกว่าไม่ต้องช่วย และไม่ต้องเปิดลังดูเพราะข้างในเป็นยาสำหรับไก่ชน ในระหว่างที่รอผู้ชายทั้งสองยกของขึ้นรถบรรทุก ผู้ขับขี่ฯ ก็เดินไปทำธุระส่วนตัวที่ปั้ม เมื่อกลับมาถึงรถบรรทุกชายทั้งสองก็แจ้งว่าเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนายรุ่งเพชรฯ ก็คลุมผ้าใบท้ายรถและขับรถบรรทุกออกจากจุดขึ้นของมุ่งหน้าทาง อ.เด่นชัย – อุตรดิตถ์ เมื่อมาถึงปั๊มน้ำมัน ที่ อ.เด่นชัย ผู้ขับขี่ฯ จึงหยุดรถ แล้วเปิดดูลังไม้ที่บรรทุกมาให้หายสงสัยว่าเป็นสิ่งของผิดกฎหมายหรือไม่ เปิดดูพบด้านในลังไม้มีถุงสีดำบรรจุก้อนสี่เหลี่ยมห่อด้วยกระดาษสีเหลืองประทับตรา 999 และโทรศัพท์แจ้ง สภ.เด่นชัย ช่วยตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นยาบ้า จำนวน 54 ถุง สรุปยาบ้าจำนวน 7,970,000 เม็ด ขณะนี้ อยู่ระหว่างสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อติดตามหาผู้กระทำผิด และผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป

คดีที่2 : สภ.เวียงมอก จว.ลำปาง จับกุมยาบ้า 599,600 เม็ด, ไอซ์ 41 กิโลกรัม
วันเดือนปีที่จับกุม : วันที่ 30 ตุลาคม 2564
สถานที่จับกุม : ด่านตรวจสะเลียมหวาน ต.เวียงมอก อ.เถิน จว.ลำปาง
ผู้ต้องหา : นายศักดิ์สิทธิ์ อำพันทอง อายุ 47 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ต.สมเด็จ อ.สมเด็จ จว.กาฬสินธุ์
ของกลาง : ยาบ้า 599,600 เม็ด,ไอซ์ 41 กิโลกรัม,รถยนต์ (ซีอาร์วี) จำนวน 1 คัน
พฤติการณ์แห่งคดี : เมื่อวันที่ 30 ต.ค.64 เวลา 06.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงมอก ได้ตั้งด่านตรวจยาเสพติด ต่อมาได้มี นายศักดิ์สิทธิ์ อำพันทอง ขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน กง 5906 กาญจนบุรี จึงได้ทำการตรวจค้น ผลการ ตรวจค้นพบยาบ้า ลักษณะกลมแบน ประทับอักษร WY จำนวนประมาณ 599,600 เม็ด และไอซ์จำนวน 41 ห่อ น้ำหนัก 41 กก. ซุกซ่อนอยู่บริเวณด้านหลังรถยนต์ ซึ่ง ผตห.รับว่าของกลางทั้งหมดรับมาจาก อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ เพื่อส่งไปให้เป้าหมายที่กรุงเทพมหานคร ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล เพื่อติดตามหา ผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่3 สภ.เกาะช้าง จว.เชียงราย ร่วมกับ กองกำลังผาเมือง ตรวจยึดยาบ้า 320,000 เม็ด
วันเดือนปีที่ตรวจยึด : วันที่ 30 ตุลาคม 2564
สถานที่ตรวจยึด : ช่องทางธรรมชาติบ้านป่าซาง ม.6 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จว.เชียงราย
ของกลาง : ตรวจยึดยาเสพติดประเภทยาบ้า 320,000 เม็ด
พฤติการณ์แห่งคดี : ในห้วงวันที่ 30 ต.ค.2564 เวลา 14.00 น. จนท.กกล.ผาเมือง ได้ตรวจพบกลุ่มคนประมาณ 4 คน แบกถุงพลาสติกสีดำเดินมาจากประเทศเมียนม่า เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว ขอทำการตรวจค้นกลุ่มคนดังกล่าว จึงได้ทิ้งถุงพลาสติกสีดำไว้แล้วได้วิ่งหลบหนีกลับไปยังประเทศเมียนม่า ชป.ขอกำลังสนับสนุน เข้าปิดล้อมสถานที่เกิดเหตุตรวจสอบบริเวณพื้นที่โดยรอบ พบเป็นวัตถุมีลักษณะเป็นกล่อง ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำจำนวน 2 กล่อง บรรจุยาบ้ากล่องละประมาณ 160,000 เม็ด รวมเป็นยาบ้าทั้งหมด จำนวนประมาณ 320,000 เม็ด ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวน ขยายผลเพื่อติดตามหาผู้กระทำผิด และ ผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รวมของกลางทั้งหมด ยาบ้า 19,896,000 เม็ด , ไอซ์ 631 กก. และ เฮโรอีน 7 กก.

โดยจะร่วมมือกันทุกภาคส่วน สกัดกั้นยาเสพติดที่จะผ่านเข้ามาตอนในของประเทศ โดยร่วมกับกองกำลังผาเมือง ในพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคเหนือ 38 จุดตรวจ และร่วมกับ ป.ป.ส.ในการริบทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 อย่างจริงจัง และให้มีผลการปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมตามนโยบายของรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป

ตำรวจภูธรภาค 5 จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน เพื่อร่วมกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน บุคคลใกล้ชิด หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม โดยเฉพาะยาเสพติดและอาวุธปืนในหมู่บ้าน/ชุมชน โดยสามารถ แจ้งข้อมูลผ่านสายด่วน 1599, สายด่วน 191, line@inthanon1(ผบช.ภ.5) และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชม. ในการดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทุกรูปแบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและสร้างความอุ่นใจในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน โดยรวม

ตำรวจภูธรภาค 5 ยึดมั่นหน้าที่ปราบภัยเพื่อประชาชน