“สบอ.11 (พิษณุโลก) เปิดยุทธการการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้มีค่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ รอยต่อระหว่างไทย-สปป.ลาว”
วันที่ 26 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. นายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 เป็นประธานในพิธีเปิดการบูรณาการและปล่อยกำลังพลตามแผนบูรณาการการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้มีค่าในอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูสันเขียว สบอ.11 บริเวณพื้นที่ชายแดนประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ท้องที่ อ.บ้านโคก อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ โดยมีนายวัชรพล แซ่เจี่ย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว กล่าวรายงาน โดยได้สนธิกำลังการบูรณาการเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวน จำนวน 70 นาย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ อช.ภูสอยดาว เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร เจ้าหน้าที่กองร้อย ตชด.ที่ 31 เจ้าหน้าที่กองร้อย อส. อำเภอบ้านโคก ร่วมด้วยผู้อำนวยการส่วน หัวหน้ากลุ่มงาน และหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามในพื้นที่ เข้าร่วมพิธีเปิด ในการนี้ ผอ.สบอ.11 ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมมอบเสบียงอาหารสำหรับใช้ในการยังชีพในการออกปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว
การเปิดยุทธการครั้งนี้ เป็นไปตามแผนยุทธการการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้มีค่าและการล่าสัตว์ป่า ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของสบอ.11 (พิษณุโลก) จากการติดตามและประเมินสถานการณ์การลักลอบกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากสถิติคดีเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้ ย้อนหลัง 3 ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2562 – 2564 ปรากฏว่าสถิติคดีดังกล่าวทั้งหมดมีแนวโน้มลดลง แต่มีข้อสังเกตว่า คดีเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้มีค่าจะมีการกระทำความผิดซ้ำในบริเวณพื้นที่เดิม สืบเนื่องจากบริเวณดังกล่าวจะเป็นแหล่งที่พบไม้มีค่าขึ้นอยู่จำนวนมากเป็นแหล่งพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นมูลเหตุจงใจให้กับกลุ่มผู้ลักลอบเข้ามากระทำผิดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศไทยและสปป.ลาว
สบอ.11 (พิษณุโลก) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตระหนักถึงคุณค่าของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และมีภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบ ที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงทรัพยากรฯ และกรมอุทยานแห่งชาติ ฯ ในการป้องกันปราบปราม สกัดกั้น ยับยั้ง การกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม จึงได้บูรณาการการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้มีค่าในพื้นที่ อช.ภูสอยดาว และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูสันเขียว โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการวางแผนการกำหนดพื้นที่ล่อแหลมและพื้นที่เสี่ยงในการลักลอบตัดไม้มีค่า โดยมีการนำเทคโนโลยีใหม่มาประยุกต์ใช้ เช่น การลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (SMART PATROL) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ นายโกเมศ พุทธสอน ผอ.สบอ.11 เปิดเผยว่า “จากสถานการณ์ข่าวในจังหวัดใกล้เคียงที่ผ่านมา มีสถิติการจับกุมโดยลักษณะไม้ซึ่งเปรียบเทียบกันแล้ว มีลักษณะเดียวกันกับที่จับกุมได้ในพื้นที่ชายแดนเขต อช.ภูสอยดาว สำหรับการเปิดยุทธการครั้งนี้ ได้ปล่อยกำลังพลออกลาดตระเวนในป่าพื้นที่ที่คาดหมายว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงโดยใช้ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน เพื่อพิสูจน์ทราบได้ว่า พื้นที่ดำเนินการหลังจากที่เราได้มีการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ซึ่งเป็นไปตามบัญชาของ รมว.ทส. และ อธิบดี อส. ได้ดำเนินการมอบหมายลงมา วันนี้ก็ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่แล้วก็ปล่อยแถวไป คาดว่าจะเป็นผลดีสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง หวังว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทรัพยากรธรรมชาติและเป็นพื้นที่ที่จะสามารถเอื้ออำนวยประโยชน์ให้แก่ลูกหลานของประเทศไทยได้ เจ้าหน้าที่ทุกคนมีกำลังใจ แล้วก็มีสติปัญญาความรู้ความสามารถที่จะดำเนินการได้ ก็หวังว่าสถานการณ์ต่อไปจะดีขึ้น”
ทั้งนี้ หลังจากเปิดยุทธการดังกล่าว ผอ.สบอ.11 พร้อมผู้อำนวยการส่วน ได้ลงพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ภสด. 3 (บ้านห้วยพร้าว) อช.ภูสอยดาว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ติดชายแดน เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่และติดตามการปฏิบัติงาน ตรวจไม้ของกลาง และรับฟังปัญหาต่างๆ พร้อมมอบนโยบายและข้อเสนอแนะในการปฏิบัติให้แก่เจ้าหน้าที่ โดยมี หน.อช.ภูสอยดาว และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและนำตรวจพื้นที่