นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา ห่วงภาคใต้ตอนล่าง หลังฝนตกชุกต่อเนื่อง นิพนธ์ฯ สั่ง จังหวัด และ ปภ.เตรียมการรับมือผลกระทบน้ำท่วมฉับพลัน
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกําลังค่อนข้างแรงจาก
ประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ลักษณะเช่นนี้จะทําให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส และมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงด้วย
สําหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกําลังค่อนข้างแรง ทําให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป อาจได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมซึ่งอาจทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนคลื่นลม
บริเวณอ่าวไทยมีกําลังค่อนข้างแรง อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขณะเดียวกันบริเวณความกดอากาศต่ำกําลังแรงบริเวณประเทศฟิลิปปินส์ได้ทวีกําลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว และกําลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้และจะทวีกําลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนในวันพรุ่งนี้(20 ธ.ค.63) ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกําลังแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมลงมาปกคลุมประเทศไทย และทะเลจีนใต้ในช่วงวันที่ 20-24 ธันวาคม 2563 ลักษณะเช่นนี้ทําให้ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส ทําให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และจะทําให้พายุนี้อ่อนกําลังก่อนที่จะเข้าสู่อ่าวไทย ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกําลังแรงอย่างต่อเนื่อง ทําให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกําลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
นายนิพนธ์ กล่าวว่า “ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ พื้นที่ภาคใต้ตอนล่างประกอบด้วยจังหวัดสงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง สลับหยุดตกในหลายพื้นที่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)และผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ดังกล่าวได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่บริเวณจุดที่เกิดน้ำท่วม น้ำไหลหลากซ้ำซากและจุดเสี่ยงที่เกิดสถานการณ์เป็นประจำ ซึ่งขณะนี้ยังคงต้องติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของจังหวัดยะลา ก็ได้มีการสั่งการให้หยุดการระบายน้ำออกจากเขื่อนในพื้นที่แล้ว”
“สำหรับที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 1 รายที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา นั้นก็จะมีการเบิกจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป ซึ่งภาคใต้ช่วงเดือนนี้เป็นช่วงฤดูมรสุมที่ส่งผลกระทบอยู่ทุกปี อย่างไรก็ตาม การเตรียมความพร้อมและการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ยังเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหากเกิดสถานการณ์” นายนิพนธ์กล่าว