เชียงใหม่ ชาวสวนลำไยกระอักเลือดราคาตกต่ำแถมพ่อค้าไม่รับซื้อ
ชาวสวนลำไยกระอักเลือด ราคาตกต่ำเกรด AA เหลือเพียงกิโลกรัมล่ะ 10 บาท แถมล้งงดรับซื้อหลังจากต่างประเทศประกาศงดรับนำเข้าลำไยไทย กลุ้มใจหนักใช้ไม้ฟาดลำไยทิ้งประชดราคาตกต่ำยังไม่พอค่าแรงเก็บลำไยสูงวันล่ะ 700 บาทต่อคน ยังไม่พอคนงานขาดแคลน ชาวสวนบางรายต้องงดเก็บลำไยหลังเพิ่งเก็บขายได้เพียง 3 วัน วอนรัฐบาลช่วยเหลือก่อนที่ผลผลิตลำไยจะเสียหายหนัก
จากกรณีที่โลกโซเชียล ได้แชร์คลิบวีดีโอ ชาวสวนลำไยรายหนึ่งที่บ้านหนองช้างคืน หมู่ 4 ต.หนองช้างคืน อ.เมืองลำพูน เกิดความเครียดที่ราคาลำไยตกต่ำ ชึ่งทางล้งที่รับซื้อลำไยส่งออกและส่งเข้าโรงงานลำไยอบแห้งได้งดรับซื้อมาตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.2564 เป็นต้นมาได้ใช้ไม้ไผ่ ฟาดผลลำไยที่ออกลูกเต็มต้นจนเสียหายหมดต้น พร้อมโพสต์ข้อความประชดว่า “ลำไยราคาแพง ฟ้าวเอาลงย่าน บ่ทันราคา”
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์ที่ใช้ชื่อว่า “เขี้ยวพยัค หนองช้างคืน ทราบชื่อนายกิตติศักดิ์ เวชกามา อายุ 43 ปีชาวสวนลำไยหมู่ 4 บ้านหนองช้างคืน ต.หนองช้างคืน อ.เมืองลำพูน พร้อมกับเล่าถึงเหตุการณ์กรณีที่ใช้ไม้ฟาดลูกลำไยที่ออกผลเต็มต้นในสวนของต้นเอง ซึ่งเครียดมาจากราคาลำไยตกต่ำ ไม่คุ้มทุนทั้งที่ผลผลิตลำไยในฤดูกาลนี้ได้ผลผลิตดี ลูกโต ผิวสวย(สีเหลืองทอง) ไม่มีแมลงรบกวน ราคาตกต่ำลงทุกวันมาตั้งแต่ต้นฤดูกาลเก็บเกี่ยว ล่าสุดที่ผ่านมาทางล้งและโรงงานลำไยอบแห้ง ปิดรับชื้อเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 ส.ค.2564 แต่ปรากฏว่าช่วงเวลาปิดรับซื้อ ลำไยทั้งแก่จัดเริ่มเน่าเสียจึงเกิดความเครียดใช้ไม้ฟาดลำไยดังกล่าว
นายกิตติศักดิ์ฯยังเปิดเผยถึงค่าแรงงานโดยคนขึ้นเก็บ ลำไยวันละ 500-700 บาท แรงงานรูดร่วงวันละ 250-300 บาท หากเหมาขึ้นเก็บและรูดร่วงกิโลกรัมละ 3 บาท เมื่อนำลำไยไปขายแล้วแทบไม่พอค่าแรงงานเลย ขณะนี้ลำไยของตนยังเหลืออีก 6 สวน ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว จึงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเมื่อไหร่ พ่อค้าเปิดรับซื้อลำไยอีกครั้ง จะเหลือราคาสักกี่บาททั้ง เกรด AA,Aและ B ส่วนเกรด C ไม่ต้องพูดถึงเขาไม่ รับซื้ออยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเก็บลำไยไปขาย ทางล้งรับซื้อประกาศรับซื้อกิโลกรัมล่ะ 12 บาท แต่ตอนเย็นนำไปขายจริง เหลือกิโลกรัมล่ะ 10 เท่านั้นพอขายลำไยเสร็จได้เงินประมาณ 7 พันบาทหักค่าคนงานเหลือเงินไม่ถึงพันทำให้เกิดอาการเครียดหนัก ในส่วนราคาในขณะนี้ที่ชาวสวนรับลำไยพอรับได้ในปีนี้อยู่ที่ AA-15บาท A-10 บาท B-5 บาท ก็พอคุ้มทุน
นอกจากนี้นายกิตติศักดิ์ยังกล่าวอีกว่าตนได้ทำสวนลำไยแล้ว ยังได้ปลูกคื่นฉ่ายเสริมอีกด้วย ทุกปีที่ผ่านมาราคาดีมากอยู่ที่กิโลกรัมละ 100-120 สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าครั้งละ 2-3 แสนบาท แต่มาปีนี้คื่นฉ่าย เหลือกิโลกรัมละ 40 บาท เท่านั้น
ด้านนายยน กันทะวงค์ ชาวสวนลำไย เปิดเผยว่า ปีนี้ราคาลำไยตกต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี ซึ่งสวนตนมีลำไยติดผล 70 ต้น ได้ขายให้พ่อค้าคนกลางไปในราคาเพียง 8 หมื่นบาท โดยได้มีการวางเงินมัดจำไว้บางส่วน ซึ่งทุกปีตนจะขายเหมายกสวนได้เงินประมาณ 2 แสนบาท ก่อนหน้านี้พ่อค้าได้นำคนงานมาเก็บลำไยได้ 3 วัน ก็เลิกเก็บเนื่องจากทางล้ง ปิดรับซื้อ ทำให้ลำไยในสวนเริ่มแก่และเสียหาย ทำให้พ่อค้าที่รับ ซื้อติดต่อมาเพื่อขอเงินมัดจำคืนเนื่องจากไม่คุ้มทุนที่ต้องคนงานราคาแพง และล้งไม่รับซื้อลำไย ทำให้เงินที่ลงทุนไปกับการดูและรักษาลำไยที่กู้ธนาคารมาสูญ หายไปปีนี้คงไม่มีเงินจ่ายค่างวดธนาคารอย่างแน่นอน
อย่างไนก็ตามจากการสำรวจโรงร่อนที่รับซื้อลำไยรูดร่วง ในพื้นที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พบว่ามีหลายโรงร่อนได้ปิดรับซื้อ จะเหลือเพียงไม่กี่แห่งที่ยังเปิดรับซื้ออยู่ แต่จะซื้อเฉพาะเจ้าของสวนขาประจำเท่านั้น หากเป็นเจ้าอื่นจะไม่รับซื้อเลยและราคารับซื้อวันนี้อยู่ที่ เกรดAA-10 บาท,A-3 บาท,B-2 บาท และเกรด C ไม่รับซื้อ ทางชาวสวนต้องนำไปทิ้ง