พังงา-น่าสงสารโควิดทำพิษเด็กนักเรียนต้องอยู่คนเดียวในบ้านซอมซ่อริมทะเล พ่อต้องไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัด
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 นายธราพงษ์ ถวิลการ รอง ผอ.โรงเรียนเทศบาลบ้านท้ายช้าง พร้อมด้วย น.ส.กาญจนา ตันทราวัฒน์พันธ์ รอง ผอ.วิทยาลัยเทคนิคพังงา นายชัยพร ยังจีน ปลัดอำเภอเมืองพังงา ชมรมผู้ปกครองฯ และนายสุทธิรักษ์ ฟองละแอ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1บ้านท่าด่าน ต.เกาะปันหยี อ.เมืองพังงา ร่วมลงพื้นที่บ้านของ ดช.ไชยา รักโอ่ นักเรียนชั้นม.1 โรงเรียนเทศบาลบ้านท้ายช้าง ในหมู่บ้านริมทะเลบ้านท่าด่าน ม.1 ต.เกาะปันหยี อ.เมืองพังงา หลังจากก่อนหน้านี้นักเรียนไม่มาเรียนหนังสือประมาณ1อาทิตย์ ทางครูประจำชั้นได้ลงพื้นที่ไปติดตามที่บ้าน จึงพบเห็นความเป็นอยู่ของเด็กว่าสุดแสนจะอัตคัดจริงๆ อยู่คนเดียวในบ้านเช่าสภาพซ่อมซ่อริมทะเล ที่ไม่รู้ว่าจะพังลงมาตอนไหนที่หลับที่นอน ห้องน้ำต่างๆก็ไม่ถูกสุขลักษณะ ทางคณะครูและโรงเรียนก็ได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ด้วยการหาที่นอนหมอนมุ้งมาให้ใหม่ พร้อมกับนำข้าวสารอาหารแห้งมาให้ และทางชมรมผู้ปกครองโรงเรียนเทศบาลบ้านท้ายช้างได้ นำภาพและเรื่องราวความเป็นอยู่ไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก เพื่อต้องการจะระดมทุนซ่อมบ้านให้ ซึ่งมีผู้ใจบุญได้ร่วมบริจาคมาแล้วจำนวนหนึ่ง ทางโรงเรียนจึงได้ประสานกับ ชมรมผู้ปกครองฯ เหล่ากาชาดจังหวัดพังงา วิทยาลัยเทคนิคพังงา และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองพังงา ร่วมลงพื้นที่สำรวจรายละเอียดเพิ่มเติมและสิ่งที่จะสามารถให้ความช่วยเหลือเด็กได้ และมีใจบุญที่ทราบข่าวติดตามมามอบเงินสดพร้อมสิ่งของจำนวนหนึ่ง ซึ่งสร้างรอยยิ้มให้เด็กและบอกว่าสิ่งที่อยากได้คือบ้านหลังใหม่ และจะเป็นเด็กดีเพื่อตอบแทนพระคุณ
นายธราพงษ์ ถวิลการ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจากครูประจำชั้นว่านักเรียนชั้นม.1 ที่เพิ่งมาเรียนใหม่ในเทอมนี้ เรียนดี นิสัยเรียบร้อย แต่มีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก อยู่คนเดียวผู้ปกครองไปทำงานต่างจังหวัด2-3อาทิตย์กลับมาครั้งหนึ่ง ทางโรงเรียนจึงได้ให้มอบของใช้เครื่องอุปโภค บริโภคเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมกับให้ทุนการศึกษา ทานอาหารกลางวันฟรี และให้เรียนฟรีจนจบชั้นมัธยมปีที่3 ในส่วนของที่อยู่อาศัยจะร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคพังงา ชมรมผู้ปกครองฯ ชุมชนและผู้มีจิตกุศล จะร่วมกันสร้างบ้านใหม่ให้บนที่ว่างที่เคยเป็นบ้านหลังเก่าของครอบครัวเด็ก
นส.เพ็ญพักตร์ รักโอ่ พี่สาวต่างมารดา เปิดเผยว่า ดช.ไชยา รักโอ่ ได้กำเนิดที่บ้านท่าด่าน เมื่ออายุประมาณ2ขวบ ได้ย้ายไปอยู่จังหวัดจังหวัดสุราษฎร์ธานีกับพ่อและแม่ของเขา หลังจากนั้นทราบว่าแม่ของน้องได้ทิ้งไปมีแฟนใหม่ตนเองจึงได้ไปรับกลับมาอยู่ที่บ้านตนเอง หลังจากนั้นพ่อก็มีแฟนใหม่ จึงออกมาจากบ้านตนเองมาเช่าบ้านหลังนี้ หลังจากนั้นแฟนใหม่ของพ่อก็ได้ทิ้งไปอีก ส่วนพ่อที่มีอาชีพรับจ้างขับเรือท่องเที่ยวอ่าวพังงา ก็ตกงานเพราะโควิด-19 จึงไปทำงานรับจ้างทั่วไปอยู่ในจังหวัดกระบี่ 2อาทิตย์กลับมาครั้ง ตนเองก็คอยดูแลน้องอยู่บ้างโดยสั่งว่าให้ไปกินอาหารที่บ้านตนเอง แต่น้องเป็นคนที่ไม่ชอบพูด ชอบอยู่คนเดียวในบ้าน บางครั้งก็ออกไปช่วยงานชาวบ้านก็ได้กินข้าวหรือค่าขนม วันนี้รู้สึกดีใจและขอบคุณเป็นอย่างมากที่มีคนใจบุญเข้ามาช่วยเหลือน้องชาย ที่อยากได้มากที่สุดก็คือบ้านหลังใหม่หลังเล็กๆเท่านั้น