รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์
มอบนโยบายส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ พร้อมริเริ่มโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านสานต่ออาชีพการเกษตรเพื่อให้ลูกหลานเกษตรกรได้กลับมาอยู่กับครอบครัว
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่พบปะกลุ่มเกษตรกร ณ สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์จำกัด โดยทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการทำอาชีพ การเกษตร ได้มีการดำเนินนโยบายส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ ได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรลดละเลิกการใช้ สารเคมีในการกำจัดวัชพืชหรือศัตรูพืช ส่งเสริมให้มีการผลิตสินค้าเกษตรในรูปแบบการทำเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) เพื่อให้สินค้าเกษตรมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค มีการยกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ให้เป็นองค์กรในระดับชุมชนในการรวบรวมจัดเก็บแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรในระดับพื้นที่ รวมทั้งการจัดหาตลาดโดยการจัดทำโครงการซุปเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ เพื่อให้เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าของสินค้าของสมาชิกที่มีคุณภาพและการเชื่อมโยง เครือข่ายการตลาดระหว่างขบวนการสหกรณ์ภาคเอกชน เพื่อกระจายผลผลิตที่มี คุณภาพปลอดภัยไปสู่ผู้บริโภค ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยโดยรวมอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ยังได้ริเริ่มโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านสานต่ออาชีพการเกษตรเพื่อให้ลูกหลานเกษตรกรได้กลับมาอยู่กับครอบครัวใช้ความรู้และประสบการณ์จากภาคอุตสาหกรรมและบริการ รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ มาพัฒนาการ เกษตรของครอบครัว เป็นการสร้างงานการเกษตรให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
สำหรับการรวบรวมผลผลิตของสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์จำกัด จะเป็น ไม้ดอก 80% พืชผัก 15% ไม้ผล 5% โดยรวบรวมพืชผักวันละ 1-3 ตัน ไม้ดอกประมาณวันละ 10,000 ดอก ราคาขึ้นกับตลาด อยู่ที่ดอกละ 3-6 บาท ในช่วงฤดูหนาว ไม้ดอกจะมีผลผลิตจะ น้อยกว่าปกติในส่วนของไม้ดอกจะมีเบญจมาศ และกุหลาบ เป็นส่วนใหญ่ ในส่วนของพืชผัก และไม้ผลจะมี กะหล่ำปลี ผักสลัด มะเขือเทศ ผักกาดขาวปลี หัวไชเท้า ซูกินี หอมญี่ปุ่น เซเลอรี่ อะโวคาโด และพลับ สมาชิกสหกรณ์มีรายได้เฉลี่ย ปีละ 40,000-100,000 บาท ความแตกต่างของรายได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องพื้นทื่ทำการเกษตร ในรายที่รายได้การเกษตรน้อยจะมีอาชีพรับจ้าง เสริม
สหกรณ์รวบรวมผลผลิตของสมาชิกผ่านบริษัท natural & premium food จำกัด วันละ 1-3 ตัน โดยใช้รถและห้องเย็นของบริษัท ในส่วนของการผลิตเกษตรปลอดภัย สหกรณ์มีสมาชิก 30 ราย ทำการเกษตรในรูปแบบเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) Good Agricultural Practice โดยส่งผลผลิตให้โครงการหลวงดอยอินทนนท์ทั้งหมด ปัญหาการดำเนินการของสหกรณ์คือ มีพื้นที่ในการรวบรวมผลผลิตจำกัด ห้องเย็นของบริษัทที่เก็บรวบรวมผลผลิตมีขนาดเล็ก สหกรณ์แก้ปัญหาโดยซื้อที่ดินในเขต ตำบลข่วงเปาอำเภอจอมทอง เนื้อที่ 4.5 ไร่และมีแผนจะรวบรวมผลผลิตของสมาชิกให้มากขึ้น
นอกจากนี้ สหกรณ์ยังส่งเสริมกลุ่มสตรี ซึ่งเป็นแม่บ้านและเยาวชนของบ้านขุนกลาง ให้มีอาชีพ และเพิ่มรายได้โดยการตั้งตลาดขายสินค้าชุมชน เพื่อจำหน่ายของที่ระลึก และผลผลิตการเกษตร ตามฤดูกาล โดยในปี พ.ศ.2544 กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้สนับสนุน เงินทุนหมุนเวียนเพื่อประกอบอาชีพ จำนวน 45,000 บาท จนถึงปัจจุบัน กลุ่มมีสมาชิก 80 คนคณะกรรมการ 7 คน ทุนเรือนหุ้น 200, 650 บาท ทุนหมุนเวียน 505,000 บาท มีการให้สมาชิกกู้ยืมเงินใช้เป็นทุนหมุนเวียนจัดหาสินค้ามาจำหน่าย สมาชิกกลุ่มสตรีมีรายได้ เฉลี่ย ปีละ 30,000 ถึง 100,000 บาทต่อครอบครัว ทั้งสหกรณ์และกลุ่มสตรีสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์จะให้การสนับสนุนส่งเสริม เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของสมาชิกสหกรณ์ และกลุ่มสตรีสหกรณ์ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป