1

ผบ.ทหารสูงสุดลงพื้นที่เน้นป้องกันโควิดระบาด คนไทยของคุณที่ช่วยให้ได้กลับประเทศ ตม.เผยแจ้งดำเนินคดี รวม 12 ราย

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.63 พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) และคณะได้เดินทางมาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อฟังบรรยายสรุปถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน เกี่ยวกับไวรัส โควิด- 19 ที่ ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย จากนั้นได้มอบของขวัญปีใหม่ให้กับกำลังพล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ก่อนจะเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการปางหนุนในพื้นที่ชายแดน เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน ก่อนจะเดินทางไปยังด่านพรมแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ที่สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็กประเทศเมียนมา พร้อมทั้งการประสานการรับคนไทยที่ตกค้างกลับประเทศ

จากนั้นได้เดินทางไปตรวจดูการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าระวังตามช่องทางธรรมชาติที่มีพื้นที่่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามพรมแดน โดยในส่วนของพื้นที่ชายแดน ทางหน่วยเฉพากิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมืองได้มีการเพิ่มกำลังอีก 2 กองร้อย โดยได้รับการสนับสนุนกำลังพลจาก จ.อุตรดิตถ์ จ.แพร่ และ จ.น่าน ในการสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ในพื้นที่ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

ในวันเดียวกันนี้ ในเวลา 13.00 น.ได้มีผู้ที่เดินทางข้ามมาจากประเทศเมียนมา ทางด่านพรมแดนแห่งที่ 2 ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นผู้ที่ตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดยไม่สามารถเดินทางกลับเข้าประเทศไทยได้ เนื่องจากได้หลบหนีออกนอกประเทศไปตามช่องทางธรรมชาติ โดยเมื่อกลับเข้ามาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจและคัดกรองก่อนจะเข้าสู่ประบวนการกักตัว 14 วันก่อนจะส่งหลับภูมิลำเนา

โดยผู้ที่ได้กลับบ้าน กล่าวว่า ขอขอบคุณทาง กองกำลังผาเมืองที่ช่วยประสานงานกับทางทางการเมียนมาเพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ตกค้างได้กลับบ้าน เพราะก่อนหน้านี้ไม่กล้าที่จะเดินทางกลับมาตามช่องทางธรรมชาติ เพราะว่าตอนเข้าพรมแดนออกไปจากประเทศไทยไปตามช่องทางธรรมชาติ ไม่มีเอกสารในการผ่านแดน เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโรวิด -19 ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ทำให้เกิดความกังวล เพราะไม่มีงานทำ จะไปไหนก็มีเจ้าหน้าที่เมียนมาตรวจสอบต้องคอยหลบซ่อน จะข้ามพรมแดนตามช่องทางธรรมชาติเหมือนตอนที่มาก็ไม่ได้ แต่เมื่อได้ทราบข้อมูลว่าได้มีการกระสานงานจาก ศูนย์ประสานงานชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา หรือ ทีบีซี ก็ดีใจที่จะได้กลับบ้าน จึงได้รีบไปลงทะเบียน อยากจะขอบคุณรัฐบาลไทย ละกองทัพภาคที่ 3ที่ช่วยเหลือให้ได้กลับบ้านหากไม่ได้รับการช่วยเหลือไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไร

สำหรับยอดผู้ที่ได้ลงทะเบียนของคนไทยที่ตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เพื่อขอเดินทางกลับประเทศไทย โดยประสานผ่านทางศูนย์ประสานงานชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย-เมีนยมา หรือ ทีบีซี วันนี้มียอดที่ลงทะเบียนไว้ 31 คน ซึ่งจนถึงวันนี้มีผู้เดินทางมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก กลับเข้ามาประเทศไทยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.63 ทั้งหมด 200 คน ในส่วนของยอดผู้ป่วยโควิด ในประเทศเมียนมา ทางกระทรวงสาธารณสุขและกีฬา เมียนมา เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในกรุงย่างกุ้งยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่าง 6 – 11 ธ.ค.63 จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงย่างกุ้งโดยเฉลี่ยสูงถึงวันละ 708 ราย ผู้ติดเชื้อสะสม 109,512 คน

ด้านจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการเตรียมความพร้อม ที่จะคัดกรองคนไทยจำนวน 15 คน โดยแยกเป็นผู้ใหญ่ 13 คน เด็ก 2 คน ซึ่งจะเดินทางจากเมียนมากลับเข้ามาในประเทศ โดยหลังผ่านการตรวจคัดกรองสุขภาพ ทุกคนจะถุกส่งไปกักตัวดูอาการใน Lacal State Quarantine ต่อไป

โดยทาง พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตม.จว.เชียงราย กล่าวว่า ช่องทางที่คนไทยจะขอกลับบ้านมี 2 ช่องทางคือผ่านทางสถานทูตหรือผ่านทางคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นฝ่ายเมียนมา โดยที่อำเภอแสาย จะมีการรับเข้าสัปดาห์ละ 3 วันคือ วันจนทร์ พุธ และศุกร์ ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ลักลอบเข้าเมืองนั้น ได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนไปแล้ว 12 ราย ซึ่งเมื่อกระบวนการรักษาจบแล้ว พนักงานสอบสวนคงจะมีหมายเรียกออกไป ส่วนข้อหาในการดำเนินคดี ก็ตามที่เป็นข่าวคือดำเนินคดีในข้อหา 3 ข้อหาหลักไปก่อนในเบื้องต้น

ภาพ/ข่าว.ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย