1

“ประหยัด ทรงคำ ” นายก ทม.แม่โจ้ เล็งระดมความคิดเห็น-ทำประชาคมชุมชน เพื่อจัดทำแผนโครงการพัฒนาแบบมีส่วนร่วม หลังรองผวจ.เชียงใหม่เปิดสภาครั้งแรก

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.64 เวลา 10.30 น. นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน เปิดประชุมสภาเทศบาลเมืองแม่โจ้ ครั้งแรก ปี 2564 พร้อมด้วยนายประหยัด ทรงคำ นายกเทศมนตรีเมืองแม่โจ้ วิรัช จิโรจน์พงศา ปลัดเทศบาลฯ และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองแม่โจ้ เข้าร่วมประชุมสภาครั้งแรกในครั้งนี้

โดยมีนายอรุณ พาชี สมาชิกสภาเทศบาลอาวุโส เป็นประธานสภาชั่วคราวดำเนินการนำสมาชิกสภากล่าวคำปฏิญาณและเสนอชื่อผู้เข้าดำรงค์ตำแหน่งประธานสภาฯ ภายหลังจากนั้นได้มีการคัดเลือกประธานสภา, รองประธานสภา, และเลขานุการสภาฯ ภายหลังจากการเสนอชื่อ นายธนวัฒน์ ปาขันธ์ ดำรงตำแหน่งประธานสภาเมืองแม่โจ้ และนายประสงค์ ประดิษฐวนิช ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ ภายหลังนายประหยัด ทรงคำ นายกเทศมนตรีเมืองแม่โจ้ ได้ลงนามแต่งตั้งนายสุริยะ จันทร์ขาวและนายสุรศักดิ์ ภีระคำ รองนายก และนางพรรณิภา สายหยุด เลขานายกฯในส่วนของประธานสภา คือนายธนวัฒน์ ปาขันธ์ และนานประสงค์ ประดิษฐวนิช รองประธานสภาฯ และนางวิลาวัลย์ เรืองศิลป์ เลขานุการสภาเมืองแม่โจ้

นายประหยัด ทรงคำ นายกเทศมนตรีเมืองแม่โจ้ เผยว่าต้องขอขอบคุณคะแนนบริสุทธิ์ทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลเมืองแม่โจ้ ที่ได้ลงคะแนนให้ผมและคณะผู้บริหารทั้ง 18 ท่าน เข้ามาบริหารเทศบาลเมืองแม่โจ้ยกทีม ซึ่งตนเองพร้อมที่จะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนในทุกด้านอย่างเร่งด่วน

ในส่วนนโยบายที่ผมและทีมผู้บริหาร เตรียมแถลงนโยบายต่อสภาเทศบาล ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ อาทิ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ไม่แบ่งฝ่าย เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ข้าราชการ และผู้นำชุมชนทุกระดับ เพื่อนำไปสู่การระดมความคิดเห็นแผนพัฒนาชุมชนแบบมีส่วนร่วม ตรวจสอบได้ ที่สำคัญการใช้งบประมาณต้องจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน เป็นความต้องการของชุมชน เพื่อตอบสนองความต้องการประชาชนเป็นสำคัญ ภายใต้การบริหารตามหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ให้มีการ
ทุจริตหรือคอรัปชั่นอย่างเด็ดขาด

“การจัดทำแผนโครงการ ต้องเริ่มมาจากแผนชุมชน ภายใต้การระดมความคิดเห็นทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและบริหารเมืองแม่โจ้แบบยั่งยืน ภายใต้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งช่วงโควิดที่ผ่านมา รายได้เทศบาล เฉลี่ยปีละ 170 ล้านบาท ลดลงกว่า 50 ล้านบาท เหลือเพียง 120 ล้านบาท เนื่องจาก
รัฐบาลมีมาตรการลดเก็บภาษีที่ดินและโรงเรือน 90 % จึงต้องบริหารจัดการงบประมาณให้เกิดความสมดุลพร้อมพัฒนาทุกชุมชนอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงด้วย” นายประหยัด กล่าว